ถามแพทย์

  • อายุ 22 ปี มีเพศสัมพันธ์ 4 ก.ย.ใส่ถุงยาง มีเลือดออกขณะมีเพศสัมพันธ์ และหลังจากนั้น 2-3 วัน ท้องไหม

  •  icezy
    สมาชิก
    ตอนนี้อายุ 22 ประจำเดือนมาล่าสุด 23-29 สิงหาคม มีเพศสัมพันธ์ครั้งแรกวัน ศุกร์ที่ 4 กันยายน แล้วมีเลือดออกเยอะมากขณะมีเพศสัมพันธ์แต่ใส่ถุงยางอนามัย ผู้ชายไม่เสร็จ เพราะเราเจ็บมากเลยหยุด มีคล้ายๆมูกแต่เป็นสีของเลือดออกมาด้วย ต่อมามีเลือดออกจนต้องใส่ผ้าอนามัยแผ่นเล็ก อยู่สองสามวันแล้วก็รู้สึกเจ็บบริเวณช่องคลอด >>>>> อยากถามว่า มีโอกาสท้องไหมคะ แล้วเลือดที่ออกมามันผิดปกติไหม ควรทำอย่างไร

    สวัสดีค่ะ คุณ icezy,

                        หากประจำเดือนมาวันที่ 23 ส.ค. แล้วได้มีเพศสัมพันธ์ในวันที่ 4 ก.ย. ถือว่าเลยระยะปลอดภัยไปแล้ว โอกาสที่จะตั้งครรภ์นั้นมีได้ แต่หากได้ใส่ถุงยางอนามัย และฝ่ายชายยังไม่ถึงจุดสุดยอด ไม่มีการหลั่งน้ำอสุจิเกิดขึ้น โอกาสที่จะตั้งครรภ์ก็ไม่มีค่ะ

                        สำหรับเลือดที่ออกขณะและหลังจากที่มีเพศสัมพันธ์ อาจเกิดจากการฉีกขาดของยื่อพรหมจรรย์หรือเยื่อบุช่องคลอด จากการที่มีเพศสัมพันธ์เป็นครั้งแรกได้ รวมถึงอาจเกิดจากการมีเพศสัมพันธ์ที่รุนแรง หรืออวัยวะเพศชายมีขนาดใหญ่มากไป หรือฝ่ายหญิงไม่มีอารณ์ร่วมและทำให้ไม่มีน้ำหล่อลื่นออกมา จึงทำให้เกิดการเจ็บและเยื่อบุจึงเกิดการฉีกขาดค่ะ ซึ่งโดยส่วนใหญ่ เลือดที่ออกจะมีปริมาณไม่มากนัก และจะค่อยๆ หยุดไหลได้เองใน 2-3 วันค่ะ

                          ดังนั้น หากหลังจากนี้ ไม่มีเลือดออกมาอีก ก็ไม่จำเป็นต้องทำอะไร สำหรับอาการเจ็บในช่องคลอด ก็จะค่อยๆ หายไปเองเช่นกัน แต่หากยังคงมีเลือดออกติดต่อกันหลายวัน หรือยังคงเจ็บช่องคลอดไม่หาย หรือมีตกขาวที่ผิดปกติ ก็ควรไปพบแพทย์เพื่อหาสาเหตุค่ะ โดยอาจเกิดจากการติดเชื้อในช่องคลอด มดลูกอักเสบ เป็นต้น