ถามแพทย์

  • ทานยารักษาเริมแล้วไม่ดีขึ้น

  • สวัสดีคุณหมอ หนูเป็นโรคเริมที่ติดเชื้อจากเพศสัมพันธุ์ หนูไปพบแพทย์มาค่ะ แพทย์จึงให้ยาฆ่าเชื้อมา อาการมันดีขึ้นจิงๆค่ะ ตุ่มมันเริ่มยุบตัวลงแต่ก็ยังยุบลงไม่หมด จนกระทั่งแพทย์นัดวันที่7 เม.ย. 60 ก็ยังมีตุ่มเหมือนเดิมแต่ไม่มีอาการใดๆทั้งสิ้น แพทย์จิงให้ยาทามา ยาตัวนี้คือ 'โซไวแร็กซ์' ทาวันละ3เวลา อาการก็เหมือนเดิมไม่แสบไม่คัน แต่ตุ่มก็ยังไม่ยุบลง เป็นเพราะหนูเป็นตกขาวด้วยมั้ยคะมันถึงไม่ยอมหาย ตอนนี้เริ่มรู้สึกแสบๆแล้วค่ะ แต่หนูก็ยังทายาตามเดิม หนูจะไปต่อยาที่คลินิคทานเองได้มั้ยคะถ้าแพทย์ไม่สั่งเพราะหนูมีตัวยาอยู่

    สวัสดีค่ะ คุณ แมว' เมี้ยววว

    โรคเรอมที่อวัยวะเพศ (Herpes) เกิดจากการติดเชื้อไวรัสซึ่งสามารถติดต่อได้ทางเพศสัมพันธ์ การรักษาสามารถ รักษาได้จากการรับประทานยาอะไซโคลเวียร์ (Acyclovir) โดยสามารถรับประทานได้หลายรูปแบบ

    -Acyclovir 400 mg วันละ 3 ครั้ง ติดต่อกัน 7-10 วัน

    -Acyclovir 200 mg วันละ 5 ครั้ง ติดต่อกัน 7-10 วัน

    ทั้งนี้การรักษาสามารถยืดออกไปได้ค่ะ ถ้าหากว่าแผลยังไม่หายสมบูรณ์ ภายหลังจากการให้ยาไปแล้ว 10 วันค่ะ

    แนะนำให้ ดูปริมาณมิลลิกรัม(mg) และการรับประทานยาค่ะ ซึ่งสามารถรับประทานยาต่อได้ค่ะ จนกระทั่งแผลดีขึ้นค่ะ 

    ส่วนอาการแสบหรือคัน สามารถใช้ยาทา เพื่อบรรเทาอาการต่อได้ค่ะ ถ้ามีอาการปวดสามารถรับประทานยาแก้ปวดเพื่อบรรเทาอาการได้ค่ะ เช่น พาราเซตามอล หรือ NSAIDs 

    อย่างไรก็ตามถ้ารับประทานยาต่อแล้ว ยังไม่ดีขึ้น หรือมีแผลเกิดเพิ่มขึ้น แนะนำให้กลับไปพบแพทย์เพื่อตรวจเพิ่มเติมอย่างละเอียดค่ะ เนื่องจากอาจเกิดการติดเชื้อซำ้เติมจากแบคทีเรียได้ ซึ่งมีความจำเป็นต้องเพิ่มยาในกลุ่มยาปฏิชีวนะในการรักษาค่ะ 

     

    อ่านเพิ่มเติมได้ที่ เริม