ถามแพทย์

  • หลังจากประจำเดือนมา 1 สัปดาห์ มีเลือดสีน้ำตาลเข้มออกมา ปกติทานยาคุมกำเนิดอยู่ ผิดปกติไหม

  •  kankanok
    สมาชิก
    เป็นประจำเดือนเมื่อวันที่ 20-25 มีนา ต่อมาประมาณหนึ่งสัปดาห์มีลักษณะคล้ายเลือดออกมาเป็นสีน้ำตาลเข้ม เริ่มมีเมื่อคืนวันที่1 เมษา ขณะนี้วันที่ 2 เมษายังมีออกมา แต่ในปริมาณไม่เยอะ อยากทราบว่ามันคือประจำเดือน หรือน้ำอะไรคะที่ไหลออกมาเป็นสีน้ำตาลเข้ม โดยปกติแล้วรับประทานยาคุมกำเนิด 28 เม็ดค่ะ และประจำเดือนมาปกติตลอด แต่ครั้งนี้เป็นประจำเดือนตามรอบปกติไปแล้ว แต่หลังจากนั้นหนึ่งสัปดาห์มีอาการดังกล่าวข้างต้น อยากทราบว่าอาการแบบนี้ผิดปกติมั้ยคะ และถ้าหากน้ำที่ไหลออกมาเป็นประจำเดือนครั้งที่2 ควรเริ่มทานยาคุมแผงใหม่มั้ยคะ

     สวัสดีค่ะ คุณ kankanok,

                    เลือดสีน้ำตาลเข้มที่ออกมา ดังกล่าว อาจเป็น

                    1. ผลข้างเคียงของการทานยาคุมกำเนิด อาจทำให้มีเลือดออกกะปริดกะปรอยได้ แต่มักเกิดในช่วงแรกของการทานยา

                    2. เป็นเลือดประจำเดือนเก่าที่ค้างอยู่ในมดลูกจากรอบเดือนที่แล้ว

                    3. มีความผิดปกติของมดลูกและรังไข่ เช่น มีติ่งเนื้อในโพรงมดลูก ติ่งเนื้อที่ปากมดลูก มะเร็งปากมดลูก เป็นต้น

                    4. ติดเชื้อในช่องคลอดหรือมดลูกอักเสบ แต่มักจะมีตกขาวที่ผิดปกติ และอาการปวดท้องน้อยร่วมด้วย

                   แนะนำว่า หากเลือดที่ออกมีปริมาณไม่มาก มาเพียงแค่ 1-2 วัน ก็น่าจะเป็นเลือดประจำเดือนเก่าที่ค้างในมดลูกได้ ไม่จำเป็นต้องทำอะไร ให้ทานยาคุมกำเนิดแผงเดิมต่อไป ไม่ต้องเริ่มทานแผงใหม่ แต่หากเลือดที่ออกมีปริมาณมากขึ้นเรื่อยๆ หรือมาหลายวัน หรือมีอาการปวดท้องน้อยร่วมด้วย แนะนำควรหยุดทานยาคุมกำเนิดก่อน และไปพบแพทย์เพื่อหาสาเหตุค่ะ 

                           

    kankanok  Prem Sremsak
    สมาชิก
    ไม่มีอาการอื่นร่วมด้วยค่ะ มีแค่ลักษณะน้ำคล้ายประจำเดือน แต่เป็นวันที่สามแล้วค่ะ ยังเป็นสีน้ำตาลเข้มเหมือนเดิม แต่ไม่มีมาก ปริมาณพอๆกับวันที่สอง ลักษณะน้ำดูข้นๆ จนเหมือนแห้ง ส่วนทานยาคุมมาสองปีแล้วค่ะ อยากทราบว่าแบบนี้ควรทำอย่างไรคะ อยากรู้ว่ามันคือน้ำประจำเดือนใช่มั้ยคะ