ถามแพทย์

  • เป็นหูดหงอนไก่ที่ปลายองชาต หาหมอได้ยามาทาแล้ว จะเป็นมะเร็งได้ไหม มีโอกาสหายไป จะแพร่ให้คนอื่นไหม

  •  Annonie
    สมาชิก
    สวัสดีครับ ผมเป็นหูดหงอนไก่ที่ปลายองชาต ตอนนี้ไปหาหมอแล้วได้รับยามาทาแต่ยังมีข้อสงสัยครับ 1.โรคนี้อันตรายไหมครับ สามารถเป็นมะเร็งได้ไหม 2.หากรักษาหายแล้ว ไปฉีดวัคซีน+ไปขริบ(ผมไม่ได้ขริบ และหนังหุ้มปลายตีบยาว) มีโอกาสหายไม่กลับมาเป็นอีกแค่ไหน 3.หลังจากนี้ถ้าหายแล้ว สามารถมีเพศสัมพันธ์แล้วจะแพร่ให้คนอื่นได้ไหมครับ ปล.ทั้งชีวิตมีเพศสัมพันธ์แค่สามครั้ง และมี1ครั้งไม่ใส่ถุง มีคงามเสี่ยงเกิดโรคอื่นๆอีกแค่ไหนครับ

    สวัสดีค่ะ คุณ Annonie,

                          โรคหูดหงอนไก่ เกิดจากการติดเชื้อ HPV (Human papilloma virus) โดยส่วนใหญ่เกิดจากชนิดสายพันธ์ุย่อย 6 และ 11 และเมื่อติดแล้ว ประมาณ 1 ใน 3 รอยโรคจะหายไปได้เองโดยไม่ต้องรับการรักษา ภายในระยะเวลา 1 ปี แต่อย่างไรก็ตาม การติดเชื้อ HPV ยังคงมีอยู่ คือตัวเชื้อไวรัสจะยังไม่ได้ถูกทำลาย ยังคงแฝงอยู่ในร่างกายเรา และมีโอกาสที่จะกลับมาเป็นซ้ำได้อีกประมาณ 20%-30% ภายใน 2-3 เดือน

                           สำหรับผู้ที่ไม่ได้เกิดรอยโรคซ้ำ เชื้อที่ยังแอบแฟงอยู่ในเซลล์ของเรา จะยังมีความสามารถในการแพร่เชื้อไปสู่ผู้อื่นได้ และมีโอกาสติดเชื้อในตนเองซ้ำในบริเวณใกล้เคียง โดยเฉพาะเมื่อร่างกายเราอ่อนแอ ระบบภูมิคุ้มกันลดลง ก็จะเป็นปัจจัยที่กระตุ้นให้เกิดการแบ่งตัวของไวรัสเพิ่มขึ้นในเซลล์ที่มีการติดเชื้อแบบแฝง ทำให้แพร่เชื้อไปสู่ผู้อื่น และทำให้เกิดรอยโรคขึ้นมาซ้ำได้

                          หากรักษาโรคหูดหงอนไก่จนรอยโรคหายไปแล้ว ก็สามารถไปฉีดวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูก (ที่สำหรับฉีดให้ผู้หญิง) ได้ โดยให้เลือกฉีดชนิด 4 สายพันธ์ุ ซึ่งจะสามารถป้องกันสายพันธุ์ที่ทำให้เกิดโรคหูดได้ โดยการฉีดวัค ซีนอาจช่วยลดการเกิดซ้ำ และช่วยลดการติดเชื้อสายพันธุ์ที่ยังไม่เคยติดได้ค่ะ สำหรับการขลิบหนังหุ้มปลายนั้น ก็จะช่วยลดโอกาสในการติดเชื้อเพิ่มเติมได้ค่ะ

                        ทั้งนี้ โรคนี้ไม่ได้อันตรายถึงขั้นทำให้เป็นมะเร็งบริเวณอวัยวะเพศ เนื่องจากสายพันธ์ุที่ก่อให้เกิดโรคหูดนั้น ไม่ได้เป็นสาเหตุของการเกิดมะเร็ง แต่หากติดเชื้อ HPV สายพันธ์ุอื่นๆ มา (ซึ่งจะไม่ได้ทำให้เกิดเป็นรอยโรคหูด) ก็อาจมีโอกาสกลายเป็นมะเร็งได้ค่ะ

                        ดังนั้น หากหลังจากนี้ ได้ไปมีเพศสัมพันธ์กับผู้อื่น แม้จะไม่เห็นรอยโรคหูดแล้ว ก็ยังอาจมีโอกาสแพร่เชื้อไปสู่ผู้อื่นได้อยู่ค่ะ สำหรับการการใส่ถุงยางอนามัยนั้น ไม่สามารถป้องกันได้ 100% ค่ะ

                        สำหรับโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อื่นๆ หากเคยมีเพศสัมพันธ์ ก็ย่อมมีโอกาสติดเชื้อต่างๆ ได้ทั้งหมดค่ะ เช่น HIV ซิฟิลิส เริม หนองใน แผลริมอ่อน ฝีมะม่วง ไวรัสตับอักเสบชนิดบีและซี เป็นต้น