เจ็บบวมบริเวณฝ่าเท้าขวาด้านบน มา 2 วัน กลัวกรดยูริคสูง

สวัสดีค่ะ คุณ Sawad,

                      หากมีอาการเจ็บที่ฝ่าเท้า ส่วนใหญ่เกิดจากโรคพังผืดใต้ฝ่าเท้าอักเสบ (หรือโรครองช้ำ) ซึ่งอาการคือ จะปวดบริเวณส้นเท้าหรืออาจลามไปทั้งฝ่าเท้า อาการจะปวดมากที่สุดเมื่อลุกเดินก้าวแรกหลังจากตื่นนอนหรือจากนั่งพักเป็นเวลานาน  ซึ่งสาเหตุ ได้แก่ การยืนต่อเนื่องเป็นเวลานาน การเดินมาก ออกกำลังกายที่มีการกระแทกส้นเท้ามากไป มีน้ำหนักตัวมาก สวมใส่รองเท้าที่ไม่เหมาะสม เป็นต้น

                       แต่หากมีอาการเจ็บที่บริเวณหลังเท้า สาเหตุ ได้แก่

                     - การบาดเจ็บที่เท้าจากอุบัติเหตุหรือการเล่นกีฬา

                     - การอักเสบติดเชื้อบริเวณข้อเท้า แต่จะมีอาการแดงของผิวหนังและมีอาการปวดมาก อาจมีไข้ ปวดเมื่อยตัวร่วมด้วย 

                     - ข้ออักเสบจากโรคเก๊าท์ เก๊าท์ ข้อที่มักพบบ่อย คือ นิ้วหัวแม่เท้า อาการคือจะปวด บวม แดง ร้อน 

                     - ข้ออักเสบจากโรคอื่นๆ เช่น โรคข้อเสื่อม รูมาตอยด์ เป็นต้น แต่จะมีอาการของการปวดข้อแบบเรื้อรังเป็นๆ หายๆ และมักพบในหลายๆ ข้อ

                      - เท้าบวมจากโรคต่างๆ เช่น หัวใจวาย ไตวาย ตับแข็ง  ท่อน้ำเหลืองอุดตันจากโรคต่างๆ เช่น โรคเท้าช้าง โรคมะเร็งชนิดต่างๆ เป็นต้น แต่ก็จะมีอาการอื่นๆ ร่วมด้วย และมักเป็นทั้ง 2 เท้า มักไม่มีอาการปวดร่วมด้วย

                        หากอาการปวดและบวมยังคงเป็นต่อเนื่อง ก็ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยค่ะ การจะทราบว่าเป็นโรคเก๊าท์หรือไม่ ต้องอาศัยการตรวจร่างกายและเจาะเลือดตรวจค่ะ ในเบื้องต้น ก็ควรงดการเดินมาก ไม่วิ่ง งดการเล่นกีฬาและออกกำลังกายต่างๆ ไปก่อน หากเจ็บมาก ก็อาจทานยาแก้ปวดไปก่อน เช่น พาราเซตามอล ไอบูโพรเฟน เป็นต้น