ถามแพทย์

  • มีผื่น คัน ตกขาวเยอะ ไปหาหมอ ได้รักษาเชื้อราในช่องคลอด แล้วกลับเป็นซ้ำอีก ต้องไปตรวจอีกไหม

  •  twona
    สมาชิก
    สวัสดีค่ะ พอดีต้นปีเคยไปรักษาเชื้อราช่องคลอด มีลักษณะเป็นผื่นและตกขาว ได้ยามาทา อีกสองเดือนไปซ้ำ มีอาการคัน ตกขาวเยอะมากก้อนใหญ่ ได้ยาทานกับยาสอดก็หายไปเดือนนึงแล้วเป็นอีก จนถึงตอนนี้มีอาการคันเรื่อยๆ มีตกขาวหนืดๆ บางวันเป็นก้อนใหญ่ๆสีเทาๆเหลืองๆ ไม่แน่ใจว่าเป็นสีเขียวไหม แต่ไม่มีฟองค่ะ ควรไปตรวจซ้ำไหมคะ หรือซื้อยาที่ร้านยามาใช้เองได้ เพราะไม่สะดวกไปโรงพยาบาลเพราะต้องลางานไปค่ะ ต้องรักษาแฟนด้วยไหมคะ มีแนวทางรักษาโดยซื้อยาที่เภสัชมาใช้ไหมคะ

    สวัสดีค่ะ คุณ twona,

                        อาการคัน มีตกขาวมาก อาจเกิดจากการติดเชื้อราในช่องคลอดได้ แต่ก็อาจเกิดจากการติดเชื้ออื่นๆ ได้ เช่น เชื้อปรสิตในช่องคลอด เชื้อโรคหนองในแท้ หนองในเทียม หรือเกิดจากเป็นมะเร็งปากมดลูกก็ได้ เป็นต้น ดังนั้น หากยังไม่เคยได้รับการตรวจภายในจากสูติ-นรีแพทย์เพื่อนำเอาสารคัดหลั่งจากช่องคลอดไปตรวจหาการติดเชื้อ ก็ควรหาเวลาไปตรวจจะดีกว่า เนื่องจากจะได้รักษาให้ถูกโรค ทั้งนี้ หากเกิดจากการติดเชื้อรา ก็จะมีอยู่หลายชนิด บางชนิดก็จะรักษาได้ไม่ยาก สามารถสอดยาทางช่องคลอด ก็จะหายได้ภายในไม่กี่วัน แต่เชื้อราบางชนิด อาจรักษายาก หายแล้วกลับมาเป็นซ้ำๆ ได้บ่อย ซึ่งแพทย์ก็จะต้องจ่ายยาปฎิชีวนะฆ่าเชื้อราชนิดที่มีความแรงให้ทานด้วยค่ะ นอกจากนี้ หากเป็นโรคบางอย่างอยู่ อาจทำให้ติดเชื้อราได้ง่าย เช่น เบาหวาน ติดเชื้อ HIV เป็นต้น

                       สำหรับฝ่ายชาย หากฝ่ายหญิงเกิดจากการติดเชื้อรา ไม่ได้เกิดจากการติดเชื้อชนิดอื่นๆ และฝ่ายชายไม่ได้มีอาการอะไรผิดปกติ ก็ไม่จำเป็นต้องพาไปรักษาค่ะ เพราะไม่ได้เป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ แต่หากฝ่ายชายมีอาการผิดปกติด้วย เช่น คันหรือเจ็บแสบๆ หรือมีผื่นที่อวัยวะเพศ ก็อาจมีการติดเชื้อราที่อวัยวะเพศอยู่ได้ ซึ่งก็จะทำให้ฝ่ายหญิงติดไปด้วยได้ค่ะ

                         ในเบื้องต้น การป้องกันไม่ให้ติดเชื้อรา ได้แก่ ไม่ควรใช้น้ำยาล้างช่องคลอด เพียงแค่ใช้น้ำเปล่าล้างก็เพียงพอ พยายามอย่าให้อวัยวะเพศอับชื้น เช็ดให้แห้งหลังการเข้าห้องน้ำทุกครั้ง ใส่กางเกงชั้นในที่เป็นผ้าระบายอากาศได้ดี ไม่ใส่กางเกงรัดแน่นเกินไป เป็นต้น