ถามแพทย์

  • อายุ 24 ปี มีอาการมือสั่นมา 7-8 ปี ช่วง 2 ปีหลังมีสั่นมากขึ้น มีวิธีรักษาไหม

  •  sirapat
    สมาชิก
    เราชอบมีอาการมือสั่น เวลาจับช้อนกินข้าว เขียนหนังสือ แต่เป็นบางครั้งค่ะ เวลาจับช้อนตักน้ำซุปจะเข้าปากจะชอบสั่นๆ บางทีคิดว่าเป็นเพราะทานกาแฟหรือเปล่า แต่เคยทาน และไม่ทานก็สั่นเหมือนกัน หรือบางทีมันก็สั่นเอง จะพิมพ์โทรศัพท์ก็สั่น บางทีเหมือนใจสั่นด้วยค่ะ ยิ่งเวลาตื่นเต้นจะยิ่งสั่นมากๆ แต่คิดว่าอันนี้เป็นปกติ เวลาคนเราตื่นเต้น มีอาการมาได้ 7-8 ปีแล้วค่ะ แต่ช่วงปีสองปีที่ผ่านมา มีอาการสั่นหนักเพิ่มมากขึ้นค่ะ อยากรู้ว่ามีวิธีรักษาไหมคะ อยากไปหาหมอรักษามากๆ เพราะไม่ชอบเลย มันทำให้เสียบุคลิก และทำให้ลำบากในบางครั้งที่ต้องเขียนหนังสือ ทำกับข้าวหรือทำงานอื่นๆค่ะ

    สวัสดีค่ะ คุณ Sirapat,

                       อาการมือสั่น อาจเกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น

                  1. โรคสั่นไม่ทราบสาเหตุ (Essential Tremor) ไม่ทราบสาเหตุชัดเจน อาจเกี่ยวข้องกับพันธุกรรม พบได้มากเมื่ออายุมากขึ้น

                  2. มีภาวะไทรอยด์ฮอร์โมนเป็นพิษ แต่ก็จะมีอาการอื่นๆ ร่วมด้วย เช่น ใจสั่น เหนื่อยง่าย เหงื่อออกมาก มีน้ำหนักลด มีปัญหาในการนอนหลับ ถ่ายอุจจาระบ่อย เป็นต้น 

                   3. การมีความเครียด วิตกกังวล ตื่นเต้น ตกใจ กลัว โกรธ หงุดหงิด ซึ่งอาจทำให้เกิดมือสั่น รวมถึงอาการทางร่างกายอื่นๆ ถือเป็นการตอบสนองของร่างกายต่ออารมณ์ที่เกิดขึ้น ไม่ได้ผิดปกติอะไร แต่หากเกิดอารมณ์ต่างๆ ดังกล่าวบ่อยๆ ก็จะถือว่ามีอาการผิดปกติทางจิตใจค่ะ

                   4. เกิดความหิว มีภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ

                   5. การดื่มชา กาแฟ โกโก้ เครื่องดื่มชูกำลัง หรือเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนอื่นๆ 

                   6. โรคพาร์กินสัน แต่จะพบในคนอายุมาก และจะสั่นเมื่อวางมือเฉยๆ มากกว่าสั่นตอนกำลังจะใช้มือทำงาน และมีลักษณะสั่นเฉพาะแบบ คือคล้ายคนกำลังปั้นยา

                   7. มีโรคทางระบบประสาทอื่นๆ เช่น ปลอกประสาทเสื่อมแข็ง ปลายประสาทอักเสบ โรคหลอดเลือดสมอง เป็นต้น แต่ก็จะมีอาการอื่นๆ ที่เด่นกว่าอีกหลายอย่าง

                   8. ภาวะถอนพิษสุรา 

                   หากอาการเป็นมานาน 7-8 ปีแล้ว โดยยังไม่ได้มีอาการผิดปกติอื่นๆของร่างกายอื่นๆ อีก ก็น่าจะเป็นอาการสั่นชนิดที่ไม่ทราบสาเหตุได้ แต่หากอาการมือสั่นเป็นมากขึ้นในช่วงหลังนี้ จนมีผลต่อการทำงานและบุคลิกภาพ ก็ควรไปพบแพทย์เพื่อรักษาค่ะ