ถามแพทย์

  • ยังไอเรื้อรังหลังจากเป็นไข้หวัดใหญ่ จะเป็นอะไรเกี่ยวกับปอดไหม

  •  Goibk Hivgho
    สมาชิก

    หมอครับ ผมเป็นโรคไข้หวัด สายพันธ์ุ a H1N1 ซึ่งผมก้ได้รับการรักษาจนหาย ซึ่งผมเป็นในวันที่ 13 สิงหาคม 2562 และหายขาดในวันที่ 25 สิงหาคม 2562 และจนถึงปัจจุบันก็ได้หายจากโลกนี้ โดยได้รับประทานยาฆ่าเชื้อของโรคหวัดจนครบหมดแล้วชื่อยาคือ tamiflu และ รับประทานยาฆ่าเชื่อคออักเสบ ชื่อยาคือ Cavumox ซึ่งทั้งสองตัวยาผมรับประทานจนครบทุกเม็ดจนหมดแล้ว หลังจากวันที่ 25 สิงหาคม 2562(ซึ่งก่อนหน้านั้นก็ไอเพราะโรคไข้หวัด) จนถึงปัจจุบัน ผมมีอาการไอ ซึ่งอาการจะมีประมาณว่า ไอเวลาพูดเยอะ และ ไอเวลาพูดน้อย หายใจเข้าไม่ไอ แต่หายใจออกจนสุดจะไอและถ้ากลั้นหายใจก็จะไอเช่นกัน ไอกระแอมๆ และ ไอหนักเป็นบางครั้ง มีเสมหะออกมาบ้างและไม่มีบ้างแต่ส่วนใหญ่จะไม่มี จะเป็นไอแห้งสะทุกครั้ง แต่ถ้าเป็นไอมีเสมหะจะเป็นเสมหะที่ไม่มีเลือดและไอก็ไม่เป็นเลือด ซึ่งผมก็จะแก้ปัญหาด้วยการกินน้ำ หรือไม่ก็ข่มใจไม่ไอออกมา  จนถึงวันนี้ผมก็เริ่มกังวลว่าผมจะเป็นโรคร้ายแรงเกี่ยวกับปอด หรือเกี่ยวกับหลอดลม ผมอยากทราบผมจะเป็นโรคอะไรไหมครับ แล้วผมมีความเสี่ยงจะเป็นโรคอะไรได้บ้างครับ 

    Goibk Hivgho  Goibk Hivgho
    สมาชิก

    ขอเสริมสักนิดหนึ่งครับ ตั้งแต่ป่วยจนถึงปัจจุบัน ผมก็ยังไออยู่นะครับ

    Goibk Hivgho  พญ.นรมน
    แพทย์

    สวัสดีค่ะคุณ Goibk Hivgho

    อาการไอเรื้อรังหลังจากหายจากการติดเชื้อในทางเดินหายใจนั้นสามารถเกิดขึ้นได้ค่ะ โดยในบางคนอาจจะมีหลอดลมที่ค่อนข้างไว ทำให้หลังการติดเชื้อ อาจจะยังไอติดต่อกันได้อีก 1-2 เดือน สาเหตุอื่นๆเช่นกลุ่มอาการภูมิแพ้  ร่างกายอาจได้รับสารที่ทำให้เกิดการระคายเคืองหรือสารก่อภูมิแพ้ เช่น ไรฝุ่น ควัน ขนสัตว์ เชื้อรา  โรคหอบหืด อาจจะไอเมื่ออากาศสัมผัสสิ่งแวดล้อมที่มีอากาศเย็นหรือการออกกำลังกายหนักๆเป็นตัวกระตุ้น หรือเกิดจาก โรคกรดไหลย้อน อาจทำให้เกิดอาการไอได้จากน้ำย่อยที่ไหลย้อนขึ้นมาระคายเคืองบริเวณลำคอและอาจไหลลงสู่หลอดลม

    แนะนำการดื่มน้ำมาก ๆ เพื่อให้เสมหะไม่ข้นเหนียวและขับออกมาได้ง่าย และลดการระคายเคืองที่คอ หลีกเลี่ยงสิ่งแวดล้อมที่กระตุ้นให้ไอมากขึ้น และมลภาวะที่เป็นพิษ เช่น ฝุ่น ควัน ควันบุหรี่ 

    หากยังไอเรื้อรัง ไอมากขึ้นเรื่อยๆ มีเลือดปน ควรกลับไปพบแพทย์เพื่อตรวจร่างกายและเอ็กซเรย์ปอดเพิ่มเติม