ถามแพทย์

  • ประจำเดือนมา 30 มิ.ย. มีเพศสัมพันธ์ 12 และ 14 มิ.ย. กินยาคุมฉุกเฉิน มีอาการต่างๆ จะท้องไหม

  •  ff.swer
    สมาชิก
    สวัสดีค่ะคืออยากสอบถามว่าอาการแบบนี้จะท้องมั้ยคะ ก่อนอื่นเลยเมนส์มาครั้งล่าสุด30มิ.ย.มาประมาณ3-4วันก็เริ่มน้อยแล้ว ทีนี้ได้มีพสพ.วันที่2และ4ไม่ได้ป้องกันค่ะ แต่ว่าหลั่งนอกไม่ได้กินยาคุมฉุกเฉินด้วยค่ะ แล้วทีนี้ได้มีพสพ.แบบไม่ได้ป้องกันอีกวันที่12กับ14 สองวันนี้หลั่งข้างในค่ะแล้วก็ได้ทานยาคุมฉุกเฉินไปทั้งสองครั้งคิดว่าทานเร็วที่สุดแล้ว(และเป็นช่วงไข่ตกด้วยถ้าดูจากแอพที่ได้บันทึกประจำเดือนไว้ตลอด) ตอนนี้ที่กังวลคือหลังจากที่ได้กินยาคุมฉฉ.วันแรกเลยอะค่ะ จะมีอาการเจ็บหัวนมนิดๆ ขมปากลิ้นฝาดๆคลื่นไส้ ท้องป่องแล้วก็เวลานอนคว่ำกดหรือแขม่วจะรู้สึกเจ็บนิดๆปวดจุกแน่นๆอะค่ะ แล้วก็ท้องผูกด้วยค่ะ ซึ่งก่อนหน้านี้ไม่เคยมีอาการมาก่อนเลย มามีอาการตอนช่วงกินยาพอดี คือมันจะเป็นผลข้างเคียงจากยารึเปล่าคะ หรือหนูอาจจะท้องตั้งแต่มีพสพ.ครั้งก่อนที่หลั่งนอกไม่ได้ทานยา แล้วก็คิดว่าตัวเองพุงใหญ่ขึ้นด้วยค่ะตื่นเช้ามาก็ไม่ยุบ ตอนนี้กังวลมากค่ะหรือจะเป็นเพราะความเครียดคะ ถ้าซื้อที่ตรวจครรภ์มาตรวจตอนนี้จะทราบผลรึยังคะถ้าเกิดว่าท้อง หรือต้องรอให้ประจำเดือนมาก่อนครบกำหนดอีกประมาณ10วันค่ะ

    สวัสดีค่ะ คุณ ff.swer,

                         หากประจำเดือนเริ่มมาวันที่ 30 มิ.ย. แล้วได้มีเพศสัมพันธ์วันที่ 2-4 ก.ค. เท่ากับยังอยู่ในระยะปลอดภัย โอกาสที่จะตั้งครรภ์นั้นมีน้อยมาก คือน้อยกว่า 1% และไม่จำเป็นต้องทานยาฉุกเฉินไป 

                         ส่วนการมีเพศสัมพันธ์ในวันที่ 12 และ 14 มิ.ย. ถือว่าเลยระยะปลอดภัยไปแล้ว โอกาสที่จะตั้งครรภ์นั้นมีได้ แต่หากได้ทานยาคุมฉุกเฉินไปในทั้ง 2 วัน โอกาสที่จะตั้งครรภ์ก็ถือว่ามีน้อยอยู่

                          สำหรับอาการเจ็บหัวนม ขมปาก คลื่นไส้ ปวดแน่นท้อง ที่เกิดหลังจากยาทานยาคุมฉุกเฉินไปในวันนั้น น่าจะเป็นอาการที่เกิดจากผลข้างเคียงของยาคุมฉุกเฉินได้ค่ะ  โดยมักจะเป็นอยู่เพียง 1-2 วัน ส่วนอาการท้องผูก ไม่น่าเกิดจากผลของยา โดยมีสาเหตุได้จากหลายๆ ปัจจัยค่ะ เช่น ดื่มน้ำน้อย ทานผักผลไม้น้อย มีความเครียด เป็นต้น

                           ส่วนการที่พุงใหญ่ขึ้น ก็อาจเกิดจากการมีท้องอืด ซึ่งสาเหตุก็อาจมาจากการที่มีท้องผูก หรือทานอาหารมากไป หรือทานอาหารที่ย่อยยาก หรือเกิดจากการมีความเครียดก็ได้ค่ะ อาการต่างๆ ที่เป็นอยู่นั้น ไม่ใช่อาการของการตั้งครรภ์แต่อย่างใด เพราะอาการของการตั้งครรภ์ จะปรากฎหลังจากมีอาการขาดประจำเดือนไปแล้วประมาณ 2 สัปดาห์ค่ะ

                            หากจะทราบว่าตั้งครรภ์หรือไม่ ก็ควรรอให้ถึงช่วงวันที่ 30 ก.ค. หรือเลยไปจากนั้น หากประจำเดือนไม่มา ก็ควรตรวจหาการตั้งครรภ์ดูค่ะ