ถามแพทย์

  • มีตกขาว คันที่อวัยวะเพศ มีเพศสัมพันธ์แล้วเจ็บ แคมบวม 1 ข้างและเนื้อใต้ช่องคลอดบวม ควรทำอย่างไร

  •  Milk221
    สมาชิก
    สวัสดีค่ะ คือมีเพศสัมพันธ์กับแฟนแล้วพลาดเลยทานยาคุมฉุกเฉินประมาณ 26 สิงหาค่ะ (มีอาการปัสสาวะอักเสบ ทานยาหมอจนครบแล้วค่ะ แต่อาการยังไม่หาย)วันนี้มีตกขาวออกมาและรู้สึกคันที่อวัยวะเพศค่ะ เอามือเกาละถูนิดหน่อย หลังจากนั้นมีเพศสัมพันธ์กับแฟนค่ะ รู้สึกเจ็บ เมื่อเสร็จกิจ แคมบวม1ข้างและเนื้อใต้ช่องคลอดบวมค่ะ ควรจะยังไงต่อคะ

    สวัสดีค่ะ คุณ Milk221,

                        อาการตกขาว คันอวัยวะเพศ มีเพศสัมพันธ์แล้วเจ็บ อาจเกิดจาก

                        - การติดเชื้อราในช่องคลอด อาการคือคันช่องคลอด อาจมีเจ็บแสบร่วมด้วย และมีตกขาวปริมาณมากขึ้น มีสีขาวขุ่นจับตัวเป็นก้อนคล้ายแป้งเปียก หรือนมบูด 

                    - การติดเชื้อปรสิตในช่องคลอด ซึ่งอาจทำให้อวัยวะเพศและช่องคลอดบวมแดง มีเจ็บ แสบหรือคันได้ ตกขาวมีกลิ่นเหม็น

                    - การติดเชื้อโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อื่นๆ เช่น หนองในแท้ หนองในเทียม เป็นต้น จะทำให้ตกขาวมีกลิ่นเหม็น เจ็บขณะมีเพศสัมพันธ์ มีปัสสาวะผิดปกติได้ 

                    ส่วนการที่แคมบวม ก็อาจเป็นมาจากการติดเชื้อดังข้างต้น และทำให้เกิดการอักเสบของเยื่อบุบริเวณแคม หรืออาจเกิดจากการเป็นถุงน้ำบาร์โธลิน (Bartholin's cyst) ซึ่งเกิดจากการอุดตันของท่อของต่อมบาร์โธลิน ทำให้เมือกที่สร้างจากต่อมสะสมอยู่ในต่อมมากขึ้นเรื่อยๆ จนกลายเป็นก้อนถุงน้ำได้ โดยจะทำให้คลำได้เป็นก้อน ตรงบริเวณแคม โดยปกติถุงน้ำนี้จะไม่ทำให้เจ็บ ส่วนในขณะที่มีเพศสัมพันธ์ ถุงน้ำจะมีขนาดที่ใหญ่ขึ้นเนื่องจากมีการสร้างเมือกออกมาเพิ่มขึ้นมา แต่หากถุงน้ำเกิดการอักเสบติดเชื้อขึ้น จะทำให้มีอาการเจ็บและปวด และอาจกลายเป็นฝีหนองตามมาได้ 

                    แนะนำว่าหากยังคงมีอาการตกขาวที่ผิดปกติ และบริเวณแคมยังคงบวมอยู่ ก็ควรไปพบสูติ-นรีแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยและรับการรักษาที่ถูกต้องค่ะ ในเบื้องต้น ควรงดการมีเพศสัมพันธ์ไปก่อนชั่วคราว และหากฝ่ายชายมีอาการผิดปกติ ก็ควรพาไปรักษาพร้อมกันด้วยค่ะ