ถามแพทย์

  • มีจุดเม็ดเล็กๆ สีขาวที่หัวอวัยวะเพศข้างใน มันคืออะไร

  •  So Good
    สมาชิก
    คือผมอยากทราบว่าจุดเม็ดเล็กๆสีขาวรอบอวัยวะเพศมันคืออะไรอ้ะครับ ลักษณะสีขาว เม็ดเล็กๆเกาะตามหัวอวัยวะเพศภายในอ่ะครับ

    สวัสดีค่ะ คุณ So Good,

                     จุดเม็ดเล็กๆ สีขาวที่องคชาตดังกล่าว อาจเป็น

                   1. fordyce spot คือต่อมไขมัน ที่เกิดบริเวณผิวหนังที่ไม่มีต่อมขน ไม่จัดเป็นโรค ไม่ได้เกิดจากการติดเชื้อ และไม่ใช่โรคติดต่อ  ลักษณะคือ เป็นเม็ดหรือตุ่มนูนสีขาว หรือเหลืองอ่อน พบได้ทั้งที่ผิวหนังของถุงอัณฑะหรือองคชาต ในอวัยวะเพศหญิงก็พบได้ รวมถึงที่กระพุ้งแก้มและริมฝีปาก อาจพบเม็ดเดียวหรือหลายเม็ด ไม่คันและไม่เจ็บ

                   2. pearly penis papules หรือโรคผื่นนูนพีพีพี ไม่ทราบสาเหตุการเกิดที่แน่ชัด ไม่จัดเป็นโรค ไม่ได้เกิดจากการติดเชื้อ และไม่ใช่โรคติดต่อเช่นกัน เกิดจากหลอดเลือดขององคชาตขยายตัว และมีเนื้อเยื่อเกี่ยวพันมาล้อมรอบ ลักษณะเป็นตุ่นนูนผิวเรียบสีเนื้อหรือชมพูอ่อน เรียงกันหลายตุ่มเป็นแถว อยู่บริเวณร่องรอบฐานหัวองคชาต มักไม่มีอาการเจ็บหรือคัน

                 3. lymphocele หรือการคั่งของน้ำเหลือง จะเกิดขึ้นทันทีหลังจากมีเพศสัมพันธ์หรือการช่วยตัวเอง จะคลำได้เป็นตุ่นนูนแข็ง แต่ตุ่มจะค่อยๆ หายไปได้เองภายในไม่กี่ชั่วโมงหรือวัน ไม่ได้อันตรายแต่อย่างใด

                  4. หูดหงอนไก่ เกิดจากการติดเชื้อ human papilloma virus ซึ่งติดต่อจากการมีเพศสัมพันธ์ ลักษณะคือจะเห็นเป็นติ่งเนื้อนุ่มๆ สีชมพูหรือสีเนื้อ ผิวขรุขระ อาจพบจุดเดียวหรือหลายจุด มักพบขึ้นที่รอยต่อระหว่างส่วนหัวและลำขององคชาต ใต้หนังหุ้มปลาย มักไม่มีอาการ แต่อาจทำให้เกิดอาการคัน แสบ หรือเจ็บได้ขณะมีเพศสัมพันธ์

                  5. หูดข้าวสุก เกิดจากการติดเชื้อไวรัส molluscum contagiosum virus ซึ่งติดต่อจากการสัมผัสผิวหนังที่มีรอยโรคโดยตรง ดังนั้นจึงติดต่อจากการมีเพศสัมพันธ์ได้ สามารถพบได้ที่ผิวหนังทั่วตัวและแขนขา รวมถึงที่องคชาต ลักาณะคือเป็นตุ่มนูนสีเหลืองหรือสีเนื้อ ผิวเรียบเป็นมันคล้ายไข่มุก ตรงกลางมีรอยบุ๋ม เมื่อกดหรือบีบให้แตก จะมีเนื้อเละๆ สีขาวคล้ายข้าวสุกไหลออกมา มักไม่มีอาการเจ็บหรือคัน 

               นอกจากนี้ยังอาจเกิดจากโรคผิวหนังอักเสบชนิดต่างๆ เช่น lichen planus เป็นเนื้องอกชนิดต่างๆของผิวหนัง หรือแม้กระทั่งมะเร็ง

                หากตรวจดูด้วยตนเองแล้วไม่แน่ใจว่าเป็นอะไร ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุค่ะ