ถามแพทย์

  • เป็นเชื้อราในหูเรื้อรังมาประมาณ 4 เดือนแล้ว ไม่ยอมหายสักที เกี่ยวกับการฟังเพลงเสียงดังไหม การรักษาควรเป็นอย่างไร

  •  Choi NattoKun
    สมาชิก
    หูเป็นเชื้อราค่ะ สวัสดีค่ะ คือหนูหูเป็นเชื้อราตั้งแต่เดือนพค.ค่ะ ใช้เวลารักษาประมาณเดือนค่ะ แล้วก็หายปกติ พอต้นกค.หนูมีอาการคัน แล้วมีขี้หูเปียกออกมาและหูอื้ออีก เลยกลับมารักษาที่รพ.เหมือนเดิม แต่มันกลับไม่หายขาดเหมือนรอบแรกค่ะ มันเป็นๆหายๆจนล่าสุดมีอาการคันก่อนแล้วก็เริ่มหูวิ้งๆก่อนแล้วค่อยๆอื้อค่ะ ไม่มีขี้หูเปียกเหมือนก่อน มีแค่ขุยๆสีขาวออกมา ก่อนจะเป็นหนูชอบนอนทับหูข้างที่เป็นเชื้อราค่ะ และนอนดึกค่ะ มันเกี่ยวกันไหมคะ? ตอนนี้หนูเครียดมากค่ะ ไปหาหมอวันนี้รพ.เขาก็ไม่รักษาให้มาอีกทีวันอังคารหน้าเลยค่ะ แม่หนูเขาจะคั้นน้ำใบหูเสือแล้วหยดใส่หูหนูแทนค่ะ หนูอยากถามว่ามันสามารถรักษาหายไหมคะ? แล้วหนูชอบใส่หูฟังฟังเพลง เปิดเสียงดังระดับนึง หนูอยากถามว่ามีส่วนทำให้หูอื้อไหมคะ? แล้วหนูสงสัยค่ะ เวลาหนูหาอ่านจากคนอื่นที่เป็นเหมือนกัน ส่วนมากเขามียามาให้หยด แต่หนูหมอเขาดูดขี้หูกับเชื้อราออกให้ แล้วหยดยาสีขุ่นๆข้นๆใส่ไป แล้วให้กินยาฆ่าเชื้อเท่านั้นเองค่ะ
    Choi NattoKun  พญ.นรมน
    แพทย์

     สวัสดีค่ะคุณ Choi NattoKun

    การติดเชื้อราภายในช่องหูนั้นเป็นภาวะที่หูชั้นนอกมีการอักเสบที่เกิดจากการติดเชื้อรา อาจเกิดขึ้นที่หูเพียงข้างเดียว หรือทั้งสองข้างก็ได้ อาการที่พบได้บ่อย เช่นได้ยินลดลง คันในหู หูอื้อ ได้ยินเสียงผิดปกติ เจ็บปวดที่บริเวณหูชั้นนอก

    การรักษานั้น แพทย์จะทำความสะอาดในรูหู โดยการใช้อุปกรณ์เฉพาะใส่เข้าไปคีบเชื้อราและซากเซลล์ที่ตายแล้วออกมา จากนั้นทำการล้างและดูดสิ่งสกปรกภายในรูหูออกมาให้ได้มากที่สุด พร้อมกับให้ยาฆ่าเชื้อรามาหยอดหูต่อด้วย แต่ในบางรายแพทย์อาจหยดยามาให้ และให้ยาฆ่าเชื้อมากินต่อได้เช่นกัน

    ปัจจัยที่ทำให้มีการติดเชื้อเรื้อรัง หรือติดเชื้อซ้ำไม่หายขาดเช่น ผู้อาศัยอยู่ในพื้นที่อากาศร้อนชื้นตลอด เป็นนักว่ายน้ำที่ต้องลงว่ายน้ำบ่อยๆ หรือมีภูมิคุ้มกันบกพร่อง มีโรคเบาหวาน เป็นต้น

    จากที่กล่าวมา ทุกครั้งที่มีอาการ ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจประเมินว่าการวินิจฉัยยังเป็นเรื่องเชื้อราในหูอยู่เหมือนเดิมหรือไม่ และควรสอบถามแพทย์ที่รักษาโดยตรงอีกครั้งว่าเหตุใดจึงเป็นบ่อยๆ อาจจะต้องซักประวัติเพิ่มเติม หรือตรวจหาโรคร่วมอื่นๆด้วยต่อไป ไม่ควรเอาน้ำใบหูเสือดังกล่าวมาหยดเอง เพราะไม่ทราบว่าเป็นสารเคมีอะไร และสะอาดหรือไม่ อาจทำให้หูติดเชื้อมากขึ้น ควรหลีกเลี่ยงสถานที่เสียงดังที่ทำให้หูอื้อไปก่อนด้วย