ถามแพทย์

  • หายใจลำบาก แน่นท้องส่วนบน เรอ ไปหาหมอได้ยามาทาน มีปวดบีบ เป็นเพราะอะไรทำอย่างไรดี

  • เมื่อวานได้ไปพบแพทย์ที่รพ.รามา เนื่องจากแน่นท้องส่วนบน หายใจลำบาก ขับถ่ายผิดปกติคือปวดถ่ายแต่ไม่ออกเพราะไม่มีแรงเบ่ง มีอาการปวดบีบเกร็งกระเพาะตลอดเวลา และเรอแล้วเจ็บปวดแสบกระเพาะและหลอดอาหาร คุณหมอให้ยาลดกรดeomeprosolและresolorให้ทาน2อาทิตย์ เมื่อคืนเพิ่งเริ่มทาน ตกกลางคืนอยู่ๆก็เรอขับลมออกมาตลอดเวลาและบีบเกร็งกระเพาะ ปวดแบบหิวข้าว เรอแน่นท้องประมาณชม.กว่า จนถึงปัจจุบันก็ยังเรอแน่นท้องแบบรู้สึกบีบเกร็ง 1.อยากทราบว่าเป็นเพราะอะไรคะ 2.และถ้าเราทานน้ำว่านหางจระเข้ด้วยจะเป็นอะไรมั้ยคะเห็นมีสรรพคุณในการรักษาโรคกระเพาะ 3.ผลไม้ทานแก้วมังกรได้มั้ยคะ เพราะตอนนี้เหมือนจะทานผลไม้ได้แต่แก้วมังกร เพราะอยากอื่นไม่ย่อยเลยค่ะ 4.มีอาการอ่อนแรง เพลีย หาวบ่อย และหาวไม่สุดทรมานมาก มีวิธีช่วยอย่างไรบ้างคะ 5.ปัจจุบันมีอาการของโรคกระเพาะและภูมิแพ้โพรงจมูก ทำให้หายใจทางจมูกก็ลำบาก และมีภาวะแน่นท้องหายใจไม่ได้อีก ทำอย่างไรดีคะ

    สวัสดีค่ะ คุณ ชนัญสิชฌ์ บวรกิตติไพศาล,

                       อาการแน่นท้องส่วนบน หายใจลำบาก ถ่ายไม่ออก ปวดเกร็งกระเพาะอาหาร เรอ อาจเกิดจาก

                   1.โรคกระเพาะอาหารอักเสบ  โดยจะมีอาการปวดบริเวณท้องส่วนบน อาจเป็นบริเวณลิ้นปี่ลงไปถึงเหนือสะดือหรือปวดค่อนไปทางด้านซ้าย อาจปวดแบบจุกแน่น หรือแสบร้อน และปวดร้าวทะลุไปหลังได้ นอกจากนี้อาจมีอาการท้องอืด แน่นท้อง อาหารไม่ย่อย (และอาจทำให้รู้สึกหายใจไม่อิ่มได้) เรอบ่อย คลื่นไส้ อาเจียน เป็นต้น

                    2.โรคกรดไหลย้อน อาการจะคล้ายๆ กับกระเพาะอาหารอักเสบ แต่จะมีอาการแสบร้อนกลางอกหรือแน่นหน้าอกร่วมด้วย หรือมีน้ำรสเปรี้ยวหรือขมในคอ หรือเจ็บคอ ระคายเคืองคอ เป็นต้น 

                    3.นิ่วในถุงน้ำดี ซึ่งมักจะทำให้เกิดอาการปวดท้องบริเวณช่องท้องส่วนบนหรือด้านขวา และมักปวดร้าวไปยังไหล่ขวาหรือบริเวณหลังด้านขวา และมักมีอาการคลื่นไส้ อาเจียนร่วมด้วย โดยอาการมักเกิดหลังจากที่ทานอาหารมื้อหนัก หรือทานอาหารที่มีไขมันสูง นอกจากนี้อาจมีอาการอื่นๆ เช่น อาหารไม่ย่อย ท้องอืด แน่ท้อง จุกเสียดบริเวณลิ้นปี่ เป็นต้น

                   4. ตับอ่อนอักเสบเฉียบพลัน แต่จะมีอาการปวดท้องบริเวณท้องส่วนบนรุนแรง และมักปวดร้าวไปที่หลัง อาการปวดมักจะมากขึ้นเมื่อทานอาหาร ท้องอืด แน่นท้อง มีไข้ คลื่นไส้ อาเจียน อาจมีตัวเหลือง ตาเหลือง เกิดภาวะขาดน้ำ เช่น ผิวแห้ง กระหายน้ำ หัวใจเต้นเร็ว เป็นต้น 

                  ในเบื้องต้น แนะนำให้ดูแลรักษาแบบโรคกระเพาะอาหารและกรดไหลย้อนไปก่อน เช่น การเลือกทานอาหารที่ย่อยง่าย ไม่ทานอาหารที่มีไขมันสูง เช่น อาหารทอดต่างๆ อาหารผัด ไม่ทานอาหารรสจัด ไม่ทานเผ็ด ควรเคี้ยวช้าๆ ให้ละเอียด ไม่ทานและกลืนเร็ว ไม่ทานอาหารครั้งละปริมาณมากเกินไป ไม่ดื่มน้ำอัดลม อัดแก๊สต่างๆ รวมถึงชา กาแฟ โกโก้ แอลกอฮอล์ และไม่ควรทานอาหารแล้วนอนทันที ควรเว้นระยะไปอย่างน้อย 2 ชั่วโมง ห้ามทานยาแก้ปวดในกลุ่ม NSAIDs เช่น แก้ปวดเมื่อย ปวดข้อ ปวดประจำเดือน เป็นต้น นอกจากนี้ หากมีอาการของท้องผูก ก็ต้องรักษาอาการให้หายด้วยค่ะ ด้วยการดื่มน้ำเปล่ามากๆ และทานผักและผลไม้ทุกมื้อค่ะ

                     สำหรับยาที่แพทย์จ่ายให้ ก็ควรทานตามที่แพทย์สั่ง แต่หากทานแล้วเกิดอาการเรอมากขึ้นหรือแน่นท้องมากขึ้น แม้จะได้ปฏิบัติตัวตามที่แนะนำไปแล้ว ก็อาจหยุดทานยาไปก่อน และไปพบแพทย์เพื่อปรับยาค่ะ

                     ส่วนน้ำว่านหางจระเข้ หากต้องการทานก็สามารถทานได้ โดยควรเลือดที่ไม่อัดแก๊ส ไม่ผสมน้ำอัดลม หรืออื่นๆ ค่ะ ทั้งนี้ ว่านหางจระเข้ มีคุณสมบัติช่วยเรื่องโรคกระเพาะอาหารและกรดไหลย้อนได้ แต่ควรเลือกทานชนิดที่มีเนื้อผสมด้วยค่ะ หากเป็นแต่น้ำอย่างเดียว คุรสมบัติอาจลดลงไป อาหารอื่นๆ นอกจากนี้ ที่อาจช่วยรักษา เช่น กล้วยน้ำว้าแบบห่าม ขมิ้นชัน เป็นต้น

                     สำหรับผลไม้ หากต้องทานทาน ก็ควรเลือกทานชนิดที่ไม่มีรสเปรี้ยวเกินไป เพราะอาจยิ่งไประคายเคืองกระเพาะอาหารได้ค่ะ ซึ่งหากต้องการทานแก้วมังกร ก็สามารถทานได้ค่ะ

                     ส่วนอาการอ่อนแรง เพลีย หาวบ่อย ในเบื้องต้น ก็ควรพยายามพักผ่อนให้เพียงพอ ไม่นอนดึก ไม่ทำงานหนักเกินไป เลือกทานเฉพาะอาหารที่มีประโยชน์ค่ะ 

                     ส่วนโรคภูมิแพ้โพรงจมูก หากอาการเป็นมาก ก็ต้องพบแพทย์เฉพาะทางอายุกรรมโรคภูมิแพ้เพื่อรักษาต่อเนื่องค่ะ ส่วนการปฏิบัติตัว ก็ต้องพยายามหลีกเลี่ยงสิ่งกระตุ้นต่างๆ ที่ก่อให้เกิดอาการแพ้  ใส่หน้ากากป้องกันฝุ่นละอองเมื่ออากาศมีค่าฝุ่นละอองมาก ไม่อยู่ใกล้ผู้ที่สูบบุหรี่ นอกจากนี้ ก็จะคล้ายๆ กัน คือต้องนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ทานอาหารที่มีประโยชน์ ไม่ดื่มแอลกอฮอล์ เป็นต้น