ถามแพทย์

  • มีอาการหัวใจเต้นเร็ว​ ตัวชา​ หูอื้อ​ จะหมดสติ เกิดจากอะไร ควรทำอย่างไร

  •  Imakasuki C. Parmanq
    สมาชิก
    -ขอเล่าในรายละเอียดที่อาจมีผลต่อสุขภาพก่อนนะครับ ก่อนหน้านี้ผมค่อนข้างที่จะใช้ชีวิตแบบสมบุกสมบันในช่วงเป็นนักศึกษา​ ด้วยสาขาที่เรียนค่อนข้างจัดการเวลาชีวิตลำบาก​ พักผ่อนน้อย​ นอน​ 6 โมงตื่น​ 9​ โมงแทบจะประจำตลอดระยะเวลา​ 5 ปี​ บวกกับพอมีเวลาว่างก็จะเลือกที่จะไม่พักผ่อนด้วยการนอนแต่จะออกไปเที่ยวกลางคืน​ ดื่มแอลกอฮอล​์และสูบบุหรี่​ เสมอๆ​ พอช่วงหลังๆมาผม​ เลิกพฤติกรรม​แบบนั้นทุกอย่าง​ นอนเป็นเวลา​ 3-4​ ทุ่ม​ แอลกอฮอล์​กับบุหรี่ยังไม่ได้หยุดขาด​ แต่ก็นานๆทีประมาณเดือนละ​ 1-2 ครั้ง​ แต่ดื่มแบบจิบๆไม่ถึงครึ่งขวด(เบียร์)​ บุหรี่ก็เช่นกันบางที่สูบแค่เดือนละครั้ง​ ไม่เกิน​ 5 ตัว​ -ตอนที่มีอาการครั้งแรก ครั้งแรกที่มีอาการ​ คือ​ วันที่ผมเพิ่งจะเดินทางกลับมา​ แล้วก็ออกมาทานข้าวฟังเพลง​ ช่วงเวลาตั้งแต่​ 2ทุ่ม​ -​ 5ทุ่ม​ ผมได้สั่งเครื่องดื่มอัดลม​ โคล่า​ มาดื่มจำนวน​ 4 ขวด(ขวดแก้ว)​ อากาศภายนอกร้านร้อนแต่ภายในร้านมีแอร์​ ผมแต่งตัวค่อนข้างมิดชิด​ เสื้อผ้าไม่ค่อยระบายอากาศ​ อาการที่พบคือ​ เมื่อกลับออกมามีความรู้สึกเหมือนเมา​ มึนๆหัว​ วิงเวียน​ (ซึ่งโดยปกติแล้ว​ นานๆทีผมจะดื่ม​ ชา​ กาแฟ​ หรือ​ น้ำอัดลม​ เรียกได้ว่า​ แทบจะไม่เลยครับ​ ในหนึ่งปี​ นับได้เลย​ 1-2​ ครั้ง)​ จากนั้นเริ่มมีอาการคลื่นไส้​ ในท้องรู้สึกหวิวๆ​ หายใจไม่ทั่วท้อง​ อุณหภูมิ​ร่างกายสูง​ แต่มือเย็น​ มีเหงื่อออก​ ทั่งที่เปิดแอร์​ หัวใจเต้นเร็ว​ เริ่มมีอาการเหมือนจะหน้ามืดหมดสติ​ นะหว่างทางไป​ รพ.​ ร่างกายเริ่มหงิกเกร็งส่วนมือและเท้า​ ชา​ ตัวเย็น เริ่มไม่มีสติ​ แต่พอไปถึง​ รพ.​ วัดความดันและออกซิเจน​ อยู่ในเกณฑ์​ปกติ​ คุณหมอให้นั่งพักและฉีดยาให้​ 1 เข็ม​ (พอฉีดยาแล้วมีความรู้สึกร้อนผ่าวไล่มาตามจุดที่ฉีดเลย​ กล้ามเนื้อดูผ่อนคลายขึ้น)​ คุณหมอจ่ายา​ ที่เกี่ยวข้องกับโรคกระเพาะและแก๊สในกระเพาะอาหาร -การมีอาการครั่งที่​ 2 หลังจากนั่นมาผมระวังตัวมากขึ้น​ พยายามหลีกเลี่ยงสิ่งที่จะทำให้เกิด​ อาการแบบนั้นอีก​ แต่วันหนึ่งผมมีการดื่มแอลกอฮอล​์​ 1 แก้ว​ สูบบุหรี่อีก​ 2 ตัว​ ช่วงเวลานั้นอากาศร้อนอบอ้าว​ ผมรู้สึกว่ามีอาการเดิมอีกครั้งเลยรีบเดินออกไปที่ที่มีอากาศระบาย​ แต่ในครั่งนี้ไม่เหมือนเดิมตรงที่​ พอยิ่งกังวลมาก​ อาการก็ยิ่งหนัก​ ยิ่งอยู่ในรถที่อากาศไม่ถ่ายเทยิ่งรู้สึกว่ากำลังจะหมดสติ​ ก็เลยเข้าไปที่​ รพ.​ แต่ไม่ได้เข้าไปตรวจ​ (คือ​ มานั่งพักใน​ รพ.​ พยายามอยู่ใกล้​ รพ.​ เพื่อให้จิตใจรู้สึกสงบ จนอาการดีขึ้นจึงกลับบ้าน)​ แล้วก็เป็นปกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น -ครั้งที่3 ครั้งล่าสุด ครั้งนี้ไม่มีการดื่ม​ แอลกอฮอล์​ หรือ​ โคล่า​ หรือ​ กาแฟ​ และการสูบบุหรี่​เลย​ และก่อนหน้านี้ก็ไม่มีการดื่มเหล่านี้เป็นระยะเวลาหนึ่ง​ แต่ว่าวันนี้ได้ดื่มชานมเย็นไปหนึ่งแก้ว​ เพิ่งกลับจากการเดินทาง​ แล้วมีนัดไปพบเพื่อนต่อ​ (ทานข้าวเที่ยงตรงเวลา​ และทานข้าวเย็นก่อนออกจากบ้าน)​ สภาพอากาศ​ร้อนอบอ้าว​ นั่งรถออกไปแต่ก็เกิดอาการหัวใจเต้นเร็ว​ เหมือนจะเป็นลมขึ้นมาอีกจึงแวะซื้อผ้าเย็นมาเช็ดถูตามร่างกาย​ แต่ต่อมายังไม่ทันถึงสถานที่นัดหมายก็เป็นขึ้นมาอีก​ แต่ครั้งนี้เหมือนจะเป็นอาการแพนิคบวกกับอากาศร้อนอบอ้าว​ ผมจึงไปซื้อเกลือแร่มาดื่ม​ พอพยุงอาการให้พาร่างกายกลับมาบ้านได้​ -เป็นคนที่มีเรื่องคิดในหัวเยอะแทบจะตลอดเวลา​ แต่ไม่ใช่เรื่องเครียดนะครับ​ เป็นอารมณ์​ประมาณ​ มีแพลนในหัวตลอดว่าต่อไปจะทำอะไรๆ​ -ตื่นเต้นง่าย​ เวลาตื่นเต้นจะมีอาการหัวใจเต้นเร็วเหงื่อออก -ไม่ค่อยได้ออกกำลังกายหรือฝึกควบคุมการหายใจ เป็นคนที่หายใจสั้น​ และมีปัญหาคือ​ ไม่สามารถเรอได้​ -เป็นภูมิแพ้​ (ไม่สามารถทานนมแม่ได้ตั้งแต่แรกเกิด) -ไม่เคยมีประวัติ​อาการป่วยด้วยโรคร้ายแรงอื่นๆมาก่อน​ ไม่มีประวัติการผ่าตัด ขอบคุณครับผม
    Imakasuki C. Parmanq  Imakasuki C. Parmanq
    สมาชิก
    เพิ่มเติมครับ มีการทานผลิตภัณฑ์​เสริม​อาหาร​ที่มีสาร OPC​ ASTAXANTHIN VITAMIN C, E Zinc และ​ Collagen peptide ครับ อายุ​ 25​ ปีครับผม

     สวัสดีคุณImakasuki C. Parmanq 

     ปัญหาที่พบใน กรณีของคุณ น่าจะเป็นเรื่องของ โรคแพนิค ค่ะ ซึ่งพบได้ค่ะ ในกรณีของคุณเหมือนสิ่งกระตุ้นคือ อุณหภูมิ ไม่ว่าจะเป็นสภาวะแวดล้อม หรือ ปัญหาในเรื่องของเครื่องดื่มที่มีอุณหภูมิเปลี่ยนไป  ตอนนี้คงต้องมาดูว่าจะแก้กันอย่างไรค่ะ

    ที่สำคัญ ที่สุด การทำกลุ่มบำบัด อาจจะช่วยในกรณีของคุณค่ะ การพูดคุยกับคนที่กลัวบางสิ่งบางอย่าง หรือ มีภาวะตื่นตระหนก เวลามีสิ่งเร้า จะช่วยได้ค่ะ 

    ที่สำคัญอาจจะมีความจำเป็นต้องพบจิตแพทย์ เพื่อช่วยในเรื่องของการควบคุมอารมณ์ด้วยยาค่ะ 

    นอกจากนี้ ที่สำคัญที่สุดคงต้องตรวจให้แน่ใจว่าไม่มีปัญหาเรื่องของภาวะไทรอยด์เป็นพิษ น้ำตาลในกระแสเลือดที่สูงหรือต่ำเกินไปค่ะ เพราะอาจจะทำให้เป็นการกระตุ้นได้เช่นกันค่ะ