ถามแพทย์

  • กินยาคุมมา 3 ปี หยุดกินยาไปเดือน ต.ค. มีประจำเดือนมา 15 พ.ย. หลังจากนั้นยังไม่มา จะท้องไหม

  • หมอค่ะ. หนูกินยาคุมมา ได้ 3 ปีแร้ว แต่แฟนบอกอยากมีลูกเรยหยุดแต่กินยังไม่หมดแผง หยุดยาวันที่ 14 กย. ประจำเดือนมา 17 กย.พอประจำเดือนหายเรยกลับมากินยาคุมใหม่จนหมดแผง(ประมานเดือนตุลา) เรยเลิกกินหลังจากนั้น ปจด.เดือนพย.ก้มาประมานวันที่ 15 และหลังจากนั้นเดือนธันวา.ประจำเดือนก้ยังไม่มา(ซื้อที่ตรวจครรภ์มาตรวจ 31/12/62ขึ้น1ขีด) และมกราตอนนี้ (23/1/63) ก้ยังไม่มา ถ้าจะมีบุตร จะมีบุตรยากไหมค่ะ และต้องรอนานไหม

    สวัสดีค่ะ คุณ ฝนนน' ป่วงงง',

                         หากหลังจากหยุดทานยาคุมกำเนิดในเดือน ต.ค. แล้วได้มีประจำเดือนมาแล้วในวันที่ 15 พ.ย. ก็แสดงว่ารังไข่ได้กลับมาทำงานเป็นปกติแล้ว แต่หลังจากนั้น หากประจำเดือนยังไม่มา แต่ได้ตรวจหาการตั้งครรภ์อย่างถูกต้องแล้ว พบขึ้นเพียง 1 ขีด ก็แสดงว่าไม่ได้มีการตั้งครรภ์เกิดขึ้น ดังนั้น การที่ประจำเดือนยังไม่มา จึงอาจเกิดจาก

                          - มีน้ำหนักเพิ่มขึ้นมาก หรือมีโรคอ้วน 

                          - การผลิตฮอร์โมนของรังไข่ผิดปกติ เช่น มีกลุ่มอาการมีถุงน้ำจำนวนมากในรังไข่ (PCOS) โดยผู้ที่เป็นโรคนี้มักจะมีรูปร่างอ้วน ผิวมัน มีสิวเยอะ และมีขนดกมากกว่าผู้หญิงทั่วไป    

                          - มีภาวะไทรอยด์ฮอร์โมนผิดปกติ

                          - มีเนื้องอกของต่อมใต้สมอง แต่จะมีอาการอื่น ๆ ร่วมด้วย เช่น ปวดศีรษะ มองเห็นภาพซ้อน มีน้ำนมไหล เป็นต้น

                          - มีพังผืดในมดลูก 

                          หากประจำเดือนไม่มานานเกิน 3 เดือนแล้ว แนะนำควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุค่ะ บางสาเหตุก็อาจเป็นเหตุให้มีภาวะมีบุตรยากได้ เช่น มีกลุ่มอาการมีถุงน้ำจำนวนมากในรังไข่ (PCOS) มีพังผืดในโพรงมดลูก เป็นต้น