สิวผดที่หน้าผากคัน

สวัสดีค่ะ คุณ earnggg___,

                   หากสิวที่หน้าผาก เป็นเม็ดสีแดง ร่วมกับมีอาการคัน อาจเป็น

                  - สิวธรรมดา (ไม่ใช่สิวผด) ซึ่งเกิดจากการอุดตันของรูขุมขน จะมีลักษณะเป็นตุ่มนูนเล็กๆ หัวสีขาวหรือสีดำ ผิวหนังไม่มีสีแดง ไม่บวม ไม่เจ็บ แต่หากเกิดการอักเสบ สิวก็จะบวม แดง อาจมีเจ็บและคันเล็กน้อยได้

                  - ผื่นแพ้ หรือระคายเคืองจากสารเคมีต่างๆ 

               ส่วนสิวผด หรือ สิวเทียม (acne aestivalis หรือ mallorca acne) นั้น จะเป็นตุ่มนูนเล็กๆ สีเหมือนผิวหนัง ลักษณะคล้ายผดผื่นขนาดเล็ก ไม่เจ็บ ไม่คัน มักเกิดขึ้นบริเวณหน้าผาก และข้างจมูก โดยจะเกิดขึ้นเมื่ออากาศร้อน ดังนั้นจึงไม่ค่อยปรากฏในตอนเช้าที่อากาศยังเย็นอยู่ แต่จะแสดงอาการมากขึ้นในช่วงบ่ายที่อากาศร้อน

                ดังนั้น หากตุ่มมีสีแดง ก็ไม่น่าใช่สิวผดค่ะ

               แนะนำควรดูแลแบบสิวอักเสบไปก่อน ได้แก่ การใช้ยาละลายหัวสิว เช่น benzoyl peroxide (เบนโซอิลเพอร์ออกไซด์) เป็นต้น ร่วมกับการใช้ยาปฏิชีวนะแบบทา เช่น clindamycin lotion เป็นต้น ใช้ผลิตภัณฑ์ล้างหน้าที่เหมาะกับคนเป็นสิว นอกจากนี้ อาจทากรดวิตามินเอ โดยควรทาก่อนนอน ถ้ามีอาการระคายเคืองก็ลดลงให้ทาวันเว้นวัน ไม่ควรจะถูกแสงแดด เพราะจะทำให้เกิดอาการระคายเคืองมาก ระยะแรกของการใช้ยาสิวจะเพิ่มขึ้น หลังจากนั้น 2-3 สัปดาห์จึงจะดีขึ้น นอกจากนี้ ควรงดการทาครีมต่างๆ ไปก่อน อาจใช้เฉพาะครีมที่เป็นมอยเจอร์ไรเซอร์ เพื่อเพิ่มความชุ่มชื่นให้กับผิว โดยควรเลือกชนิดที่ระบุว่า เหมาะกับผิวหนังที่เป็นสิว และไม่ก่อให้เกิดการแพ้ค่ะ 

                 นอกจากนี้แล้ว ก็ควรดูแลตนเองในด้านอื่นๆ อีก เช่น 

                 - หลีกเลี่ยงอาหารบางชนิดที่กระตุ้นการเกิดสิวได้ เช่น เค้ก คุกกี้ ขนมหวาน รวมถึงนมวัว อาหารทะเล และอาหารไขมันทรานส์สูง เช่น เนยเทียม ครีมเทียม อาหารทอด และอาหารสำเร็จรูปบางชนิด

                 - นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ เพื่อให้ฮอร์โมนทำงานอย่างสมดุล

                 - เลือกใช้ผลิตภัณฑ์สำหรับผิวหน้าที่ระบุว่าไม่เป็นตัวก่อสิว (non-comedogenic) และใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่มีน้ำมัน (oil-free) 

                 - ล้างหน้าวันละ 2 ครั้ง ไม่ล้างบ่อยจนเกินไป เพราะสิวไม่ได้เกิดจากความสกปรก แต่หากมีหน้ามันมากอาจล้างเพิ่มระหว่างวันด้วยน้ำเปล่า 

                แต่หากอาการไม่ดีขึ้น ก้ควรไปพบแพทย์เฉพาะทางผิวหนังค่ะ