ถามแพทย์

  • คันแสบทั้งตัว หาหมอแล้วไม่ดีขึ้น จากนั้น 2 เดือนผิวเปลี่ยนเป็นสีเหลืองเหมือนขาดเลือด ตรงกลางผื่นเป็นผิวแข็งด้าน อันตรายไหม

  •  Namkig Nb
    สมาชิก
    สวัสดีค่ะคุณหมอ, อาการเริ่มแรกคันไปทั้งตัวคะ คันแบบแสบๆทั้งตัวค่ะ ตอนแรกคิดว่าคงหายเองเลยไม่ได้หาหมอ ต่อมาเป็นเดือนก็ยังไม่หาย แต่ผิวเริ่มเปลี่ยนไป ผิวลอก จากนั้นเหมือนผิวไหม้ที่รูขุมขุน จากนั้นผิวก็เปลี่ยนเป็นสีเหลืองเหมือนขาดเลือดขาดน้ำค่ะ อาการนี้เกิดขึ้นระยะเวลาภายใน2เดือนค่ะ แล้วผิวก็เหี่ยวเหมือนเสียน้ำค้ะ แล้วก็เริ่มตัวร้อน เหมือนมีไข้ ไปตรวจเลือดแล้ว เลือดปกติค่ะแต่หัวใจเต้นเร็วค่ะ ตอนนี้พอไปอาบน้ำเกลือยิ่งคันแสบมาก แล้วก็มีผื่นขึ้น เป็นผื่นแบบแข็งๆ ตรงบริเวณที่โดนน้ำเกลือนาน เป็นวงรี และวงกลมค่ะ ตรงผื่นจะแข็งตรงกลางผื่นเหมือนเป็นหนองที่แข็งด้านเหมือนผิวไม่รู้สึก เหมือนผิวตายค่ะตรงผื่นค้ะ แบบนี้จะเป็นโรคติดเชื้อผิวหนังร้ายแรงอะไรมั้ยคะ

     สวัสดีคะคุณ Namkig Nb

    อาการไข้ ผื่น ในเพศหญิงอายุน้อย จะคิดถึงภาวะดังนี้ค่ะ 

    1. ภาวะภูมิแพ้ตัวเองค่ะ ซึ่งอาจจะมีเรื่องไข้ต่ำๆ ผื่นแพ้แสง หรือ ผื่นแพ้ผิวหนัง มีอาการปวดตามข้อ ผื่นแพ้แสงที่หน้า มีภาวะซีด อาจจะมีภาวะเรื่องของการติดเชื้อในปอด หรือ เยื่อบุหัวใจได้ด้วยค่ะ
    2. ภาวะภูมิแพ้ผิวหนังซึ่งเกิดจากการแพ้ยา หรือ สารเคมี ซึ่งก็พบได้บ่อยเช่นกันค่ะ 
    3. การติดเชื้อของผิวหนัง มักจะเกิดเริ่มแรกจากการมีผื่นคันแล้วมีการเกาทำให้มีเชื้อที่นิ้วติดไปที่ผิวหนังค่ะ ทำให้ผิวหนังมีหนอง หรือ การติดเชื้อได้ค่ะ ถ้าติดเชื้อไม่ลึกก็อาจจะแค่บวมแดง อาจจะมีอาการบวมแดงเป็นรอยเล็บได้ค่ะ หรือ อาจจะมีเรื่องการติดเชื้อตรงกลางแบบที่เป็นได้ค่ะ 
    4. ผื่นแพ้ที่เกิดจากการสัมผัสพืชบางชนิด ทำให้มีผื่นลักษณะแดง มีรอยไหม้ ได้ค่ะ อาจจะมีเรื่องของอาการปวดแสบร้อนได้ค่ะ
    5. การติดเชื้อไวรัส ซึ่งอาจจะเป็นการติดเชื้อในเรื่องของงูสวัด หรือ เริมแล้วมีการติดเชื้อแบคทีเรียร่วมด้วยก็ยังได้ค่ะ ดังนั้นต้องได้รับการตรวจร่างกายและการซักประวัติเพิ่มเติมค่ะ

    แนะนำพบแพทย์ค่ะ