ถามแพทย์

  • มีอาการเจ็บคอ กลืนน้ำลาย กลืนน้ำแล้วเจ็บเหมือนมีอะไรมาบาด เกิดจากเชื้อไวรัสหรือแบคทีเรีย จะแยกกันอย่างไร หายได้เองไหม

  •  Šârân Čhînrâm Bâll
    สมาชิก
    พอดีผมมีอาการเจ็บคอกลืนน้ำลายก็เจ็บกินน้ำก็เจ็บเเบบเหมือนมีอะไรมาบาดคอเเสบๆเเล้วใต้คอตรงค้าง2 ข้างมีบวมๆจดเเล้วเจ็บนิดหน่อยถ้าเกิดคออักเสบเเบบนี้เกิดจากเชื้อเเบคทีเรียใช่รึเปล่าครับพอดีดูในGoogleบอกอาการเเบบนี้ติดเชื้อจากเเบคทีเรีย หายได้เองไหมครับโดยไม่ต้องใช้ยารักษา เเล้ววิธีสังเกตุว่าติดเชื้อจากเเบบทีเรียกับเชื้อไวรัสสังเกตุหยังงัยครับ
    Šârân Čhînrâm Bâll  พญ.นรมน
    แพทย์

     สวัสดีค่ะคุณ Šârân Čhînrâm Bâll

    อาการเจ็บคอ กลืนน้ำลาย กลืนน้ำแล้วเจ็บเหมือนมีอะไรมาบาด อาจจะเกิดจาก การอักเสบของลำคอจากการติดเชื้อแบคทีเรียหรือเชื้อไวรัส เป็นต่อมทอนซิลอักเสบหรือมีหนองที่ต่อมทอนซิล มีแผลร้อนในในช่องปากและลำคอ การระคายเคืองของลำคอจากอาหารที่กินเช่นอาการร้อนหรือเย็นจัด หรืออาหารแข็งๆ เป็นต้น

    ควรตรวจยืนยันการติดเชื้อโควิด 19 ด้วยตนเองด้วยชุดตรวจ ATK ดูก่อน เพราะอาการเจ็บคอเป็นอาการนำของโรคโควิดที่พบได้บ่อย

    เบื้องต้นให้ดื่มน้ำมากๆ รับประทานยาแก้ปวดและลดไข้ได้ทุก 4-6 ชั่วโมงถ้ามีไข้ร่วมด้วย อมยาอมแก้เจ็บคอ รับประทานอาหารอ่อนๆและสุกสะอาด สังเกตอาการ ถ้ายังปวดมาก มีไข้สูง ให้ไปพบแพทย์

    ไม่แนะนำการซื้อยาฆ่าเชื้อมากินเอง เพราะส่วนใหญ่อาการเจ็บคออาจจะเป็นเชื้อไวรัสได้มากกว่าเชื้อแบคทีเรีย ซึ่งยาฆ่าเชื้อที่ขายทั่วไปจะไม่ได้ครอบคลุมการติดเชื้อไวรัส ไม่ว่าจะเป็นการติดเชื้ออะไรสุดท้ายสามารถหายได้เอง แต่ถ้ารักษาอาจจะหายได้เร็วขึ้น และกลับไปใช้ชีวิตได้ตามปกติเร็วขึ้น ไม่สามารถแยกอาการของแบคทีเรียกับไวรัสได้ขาด แต่ส่วนใหญ๋แบคทีเรียอาการจะรุนแรงกว่า มีหนองที่คอชัดเจน มีไข้สูง แต่ไวรัสบางชนิดก็สามารถทำได้เช่นกัน