ถามแพทย์

  • เป็นกระเพาะปัสสาวะอักเสบ อยากทราบวิธีการอ่านผลปัสสาวะดังแนบ และสงสัยว่าผื่นแพ้ยาจะหายได้เองหรือไม่ และวิธีการรับประทานยา Ciprofloxacin

  •  Sucharnon
    สมาชิก

    สวัสดีครับ ผมได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นกระเพาะปัสสาวะอักเสบ แพทย์ที่คลินิกให้ยา Ciprofloxacin 500 mg มากิน 5 วัน  วันละ 2 เม็ดเช้าเย็น  หลังจากยาหมดแล้วรู้สึกว่ายังไม่หายจึงกลับไปหาใหม่  ผลตรวจปัสสาวะรอบ 2 หมอบอกว่าดีขึ้น 10 เท่า (จากเม็ดเลือดแดง 30-50 เหลือ 3-5)   อันนี้ผลตรวจปัสสาวะรอบ2 ครับ >>> https://www.picz.in.th/image/Ck4D1I   จากนั้นแพทย์ปรับยาให้ใช้เป็น levofloxacin 500 mg  วันละ 1 เม็ด 10 วัน

    .  เมื่อกิน levofloxacin 500 mg  เม็ดแรก ผ่านไปประมาณครึ่งชั่วโมง รู้สึกคันที่ผิวอวัยวะเพศ จึงหยุดยาและกลับไปที่คลินิกใหม่ ได้ยาตัวเดิมมาแทน(Ciprofloxacin 500 mg   5 วัน  วันละ 2 เม็ด เช้าเย็น)และยาทาผิวแก้คัน   พอถึงช่วงเย็น อาการคันเหมือนจะมากขึ้น ปลายอวัยวะเพศออกสีแดงเล็กน้อย และคันเจ็บเล็กน้อยระหว่างปัสสาวะด้วย จึงทานยาแก้แพ้ไป  พอเช้ามาอาการก็ดีขึ้นแต่ยังไม่หายคันครับ 

    .อยากสอบถามคุณหมอ 3 ข้อครับ 

    1.วิธีอ่านผลปัสสาวะ(ที่ผมแนบลิงก์ไป)

    2.กรณีแพ้ยา levofloxacin ที่คัน แดงปลายอวัยวะเพศ จะหายได้เองใช่ไหมครับ

    3.วิธีรับประทานยา Ciprofloxacin  ที่ได้ประสิทธิภาพดีที่สุดคือตอนท้องว่างหรือเปล่าครับ และจำเป็นต้องต่อเนื่องกัน ทุก 12 ชั่วโมงไหมครับ (เช่นกิน 10 โมงเช้า ก็ต้องกินอีกที 4 ทุ่ม)

    ขอบคุณครับ

    Sucharnon  พญ.นรมน
    แพทย์

     สวัสดีค่ะคุณ Sucharnon

    การอ่านผลการตรวจปัสสาวะดังแนบนั้น อ่านผลว่ามีปัสสาวะสีเหลือง ค่าความเป็นกรดด่างอยู่ที่ 6.5 คือเป็นกรดเล็กน้อย ไม่ได้ผิดปกติ ค่าความเข้มข้นอยู่ที่ 1.015 ซึ่งค่อนไปทางปัสสาวะข้นคืออาจจะเกิดจากการขาดน้ำ ไม่พบโปรตีนและน้ำตาลในปัสสาวะ มีเม็ดเลือดขาว 0-2 ตัว ซึ่งไม่น่าจะมีการติดเชื้อ เม็ดเลือดแดง 3-5 ตัวไม่ได้บ่งบอกอะไรชัดเจน 

    การแพ้ยาฆ่าเชื้อนั้น อาจมีอาการได้หลายแบบ หลายความรุนแรง หากเป็นผื่นที่อวัยวะเพศ มักเป็นผื่นสีแดงอมม่วงเป็นรูปวงรีซึ่งจะหายได้เองหลังหยุดยาที่เป็นสาเหตุ ส่วนอาการคันและแดงดังกล่าวมา ไม่แน่ใจว่าเกิดจากการแพ้ยาหรือเป็นการระคายเคืองอวัยวะเพศจากสาเหตุอื่น ซึ่งถ้าสาเหตุได้รับการแก้ไขแล้ว เช่นรักษาเรื่องการติดเชื้อแล้ว ไม่ไปเสียดสีเพิ่ม รอยโรคอาจจะค่อยๆดีขึ้นได้

    การรับประทานยาฆ่าเชื้อ ciprofloxacin นั้น ควรรับประทานตอนท้องว่าง โดยรับประทานก่อนอาหารอย่างน้อย 1 ชั่วโมง หรือหลังอาหารอย่างน้อย 2 ชั่วโมง วันละ 2 ครั้ง เช้าและเย็น อาจจะห่างกันทุก 12 ชั่วโมงดังกล่าวมาก็ได้เช่นกัน แนะนำการรับประทานยาให้ครบและกลับไปติดตามอาการและผลปัสสาวะถ้าแพทย์นัด