ถามแพทย์

  • อายุ 16 ปี หายจากโควิดได้ 28 วัน มีผื่นขึ้น ไปหาหมอบอกเป็นลมพิษ เป็นภูมิแพ้อากาศอยู่ กลัวเป็น SLE

  •  yjkkm
    สมาชิก
    สวัสดีค่ะคุณหมอ หนูมีผื่นขึ้นหลังจากโควิดมา ตอนนี้หายโควิดได้ประมาณ28วันแล้วค่ะ หนูเป็นภูมิแพ้อากาศอยู่แล้วค่ะ จากนั้นผื่นขึ้นเยอะๆเรื่อยๆ วันนี้หนูเลยตัดสินใจไปหาคุณหมอทางด้านผิวหนังค่ะ คุณหมอบอกว่าไม่เกี่ยวกับโควิด คุณหมอบอกว่าหนูเป็นลมพิษค่ะ คุณหมอให้ยาโลชั่นมาทา และยาแก้แพ้กับสเตียรอยด์มากิน แต่หนูกลัวเป็นโรค sle อะค่ะ หนูอยากทราบว่า sle เป็นในคนอายุ16ได้ไหม แล้วลมพิษจะทำให้หนูแน่นหน้าอกได้ด้วยหรอคะ หนูไม่มีอาการแน่นหน้าอกค่ะ แต่อยากทราบว่ามันอันตรายถึงชีวิตไหมคะ แล้วต้องกินยานานไหมคะกว่าอาการจะดีขึ้น แล้วมีโอกาสหายไหมคะ ขอบคุณล่วงหน้านะคะ

    สวัสดีค่ะ คุณ yjkkm,

                         หากหายจากโรคโควิด 19 มาได้ 28 วันแล้ว และเพิ่งมีผื่นลมพิษขึ้นมา ก็ไม่น่าเกิดจากอาการของโรคโควิด 19 ที่ยังไม่หาย แต่เกิดจากการที่เราไปสัมผัสกับสิ่งที่แพ้บางอย่าง ซึ่งหากมีประวัติเป็นโรคภูมิแพ้อยู่แล้ว ก็น่าจะมีสิ่งที่แพ้อยู่ค่ะ

                         ลมพิษนั้น เกิดจากร่างกายมีปฏิกิริยาตอบสนองต่อสิ่งที่เป็นตัวกระตุ้นให้เกิดอาการแพ้ โดยจะมีผื่นเกิดขึ้นที่ผิวหนัง มีลักษณะนูนแดง จะมีขนาดและรูปร่างแตกต่างกันไป อาจมีขนาดตั้งแต่เล็กมาก ไปถึงขนาดใหญ่ สามารถเกิดขึ้นได้ที่ผิวหนังทั่วตัว และจะมีอาการคันมาก และหากเกาก็จะเกิดผื่นแดงมากยิ่งขึ้น และหากอาการแพ้รุนแรงมากขึ้น ก็อาจทำให้แน่นหน้าอกตามมา มีอาการหายใจลำบาก หายใจมีเสียงดังวี๊ดๆ  มีหน้าซีดหรือหน้าแดง  หน้าบวม คอบวม  อาเจียน ถ่ายเหลว และอาจหมดสติได้ค่ะ

                          ทั้งนี้ หากได้ไปพบแพทย์และได้ยาแก้แพ้และยาสเตียรอยด์มาทานแล้ว ก็ให้ทานตามที่แพทย์สั่งให้ครบ หากไม่หาย ก็ไม่ควรไปซื้อยามาทานเอง โดยเฉพาะสเตียรอยด์ เพราะจะมีผลอันตรายต่อร่างกายเราได้ค่ะ ดังนั้น หากอาการไม่หาย ก็ควรกลับไปพบแพทย์ค่ะ

                          สำหรับโรค SLE หรือโรคแพ้ภูมิตัวเอง คือโรคที่เกิดจากความผิดปกติของระบบภูมิคุ้มกัน โดยภูมิคุ้มกันเกิดไปทำลายเนื้อเยื่อภายในร่างกายของตัวเองจนเกิดการอักเสบ และสามารถทำให้เกิดความผิดปกติกับอวัยวะได้ทั่วร่างกาย พบได้ในเพศหญิงมากกว่าเพศชาย พบได้บ่อยที่สุดในหญิงวัยเจริญพันธุ์ (อายุ 15-45 ปี) แต่ในวัยเด็กก็พบได้ ส่วนวัยสูงอายุมักไม่ค่อยพบค่ะ 

                         สำหรับอาการของโรค ก็จะมีหลากหลาย จากการที่เกิดการอักเสบในหลายๆ อวัยวะ ได้แก่ ปวดข้อ เป็นไข้ตั้งแต่ไข้ต่ำ ๆ จนถึงไข้สูง อ่อนเพลีย เบื่ออาหาร  เกิดผื่นผิวหนังตามใบหน้า แขน ขา ที่อยู่บริเวณนอกเสื้อผ้า ผมร่วง มีภาวะโลหิตจาง เม็ดเลือดขาวต่ำ เกล็ดเลือดต่ำ เป็นจ้ำเลือดง่าย ถ้าโรครุนแรงอาจมีเม็ดเลือดแดงแตก ปอดอักเสบ ไตอักเสบ เป็นต้น

                         ดังนั้น หากยังไม่ได้มีอาการผิดปกติอะไรเหล่านี้ ก็ไม่ได้เป็นโรค SLE ค่ะ

                        การที่เราเป็นภูมิแพ้อยู่นั้น ต้องพยายามหาสิ่งที่เป็นตัวกระตุ้นให้เกิดอาการภูมิแพ้ที่ทำให้เกิดอาการและหลีกเลี่ยงค่ะ เช่น ขนนก นุ่น ฝ้าย ไรฝุ่น ฝุ่นละออง ควัน เชื้อราต่างๆ สะเก็ดผิวหนังจากสัตว์ เช่น สุนัข แมว หนู กระต่าย เกสรดอกไม้ ดอกหญ้า แมลงสาบ และแมลงต่างๆ วัสดุเฟอร์นิเจอร์ เช่น ใยมะพร้าว เป็นต้น นอกจากนี้ ก็ควรลดความเครียดลง เพราะเป็นตัวกระตุ้นได้ด้วยเช่นกัน การหลีกเลี่ยงการโดนอากาศเย็น ไม่โดนลม ไม่ดื่มน้ำเย็น หลีกเลี่ยงการอยู่ใกล้ผู้ที่สูบบุหรี่ และที่ที่มีฝุ่นละอองมาก ไม่ดื่มแอลกอฮอล์ ควรออกกำลังกายสม่ำเสมอ พักผ่อนให้เพียงพอ ทานอาหารที่มีประโยชน์โดยเฉพาะผักและผลไม้ ลดขนมหวาน น้ำหวานต่างๆ อาหารแปรรูป เป็นต้น