ถามแพทย์

  • เป็นไขมันพอกตับ หลังจากทานยามีอาการตับอักเสบ และค่าตับขึ้น ควรดูแลตนเองอย่างไร

  •  thanapat18
    สมาชิก

    แรกเริ่มผมมีอาการปวดหัวบริเวณท้ายทอยเหมือนเป็นก้อนๆคล้ายๆกล้ามเนื้อเกร็ง มึนหัว อ่อนเพลีย ความดันโลหิตสูง เป็นมาประมาณเกือบๆเดือน จนมีวันนึงเริ่มมีอาการมากขึ้น พร้อมกับคลื่นใส้เป็นบางครั้ง วันถัดไปผมเลยตัดสินใจไปตรวจสุขภาพ ผมไปเจาะเลือดเมื่อวันที่14ม.ค.ที่ผ่านมา ผลคือ แทบทุกอย่างปรกติหมด แต่มีสามตัวคือ คลอเลสเตอรอล ปรกติ200/ของผม271 , SGOT ปรกติ0-40/ของผม 59 , SGPT ปรกติ0-45/ของผม 144 ปรกติผมไม่กินเหล้าสูบบุหรี่ แต่นอนดึก กินอาหารไม่เลือก มีพุง อายุ37 สูง159 นน.75 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ เบื้องต้นหมอวินิจฉัยว่า ผมเป็นไขมันพอกตับ หมอจ่ายยาคลายกล้ามเนื้อbiocalm แก้ปวดdiclofenac แล้วนัดให้มาพบอาทิตย์หน้า ผมพยายามควบคุมการกิน นอนแต่หัวค่ำ เลิกนั่งหน้าคอมนานๆ พยายามยืดเหยียดกล้ามเนื้อ ทานยาแค่biocalm ไม่ทานdiclofenac เพราะกลัวจะไปทำลายตับมากขึ้น(คิดเอาเอง) อาการปวดท้ายทอยลดลง คลื่นใส้อาเจียนหายไป แต่ยังคงเพลียๆและมึนๆอยู่ เลยลองค้นหาผลข้างเคียงของยาbiocalm ซึ่งแน่นอน ตรงกับที่ผมเป็นเลย ผมเลยหยุดกินทันที ผลคือ ผมดีขึ้น แต่ก็ไม่ถึงกับ100% ผมออกกำลังกายมากไม่ได้เพราะดันมีอาการเจ็บจี๊ดๆบริเวณชายโครงขวา พอไปพบหมอ ผมบอกอาการเจ็บชายโครงขวา หมอบอกแค่ว่าน่าจะเป็นที่กระเพาะ รอบนี้หมอจ่ายยาเคลือบแผลในกระเพาะ(จำชื่อไม่ได้เพราะกินหมดไปแล้ว) ยาลดไขมันในเลือด(Simvastatin) กับ ยาบำรุงตับ(Livotone) ผมทานทั้งสามตัวมาเรื่อย อาการที่ยังมีคือ มึนหัวเป็นบางครั้ง เพลีย ทำงานได้ไม่เต็มที่ นอนไม่ค่อยหลับ ทำให้ผมต้องมาค้นหาตัวยาที่กินไปอีกเช่นเคย พบว่า Simvastatinมีผลข้างเคียงตามที่ผมเป็น อีกทั้งยังมีผลทำให้ตับ/ตับอ่อนอักเสบ ผมก็เลยลองหยุดยา หลังจากที่กินมาได้25วัน อาการไม่พึงประสงค์ก็หายไป ตอนนี้ผมดีขึ้นเรื่อยๆ ยังคงมีอาการปวดเมื่อยตามบ่าและหลังบ้างเป็นบางครั้ง แต่สิ่งที่ยังกังวลคือ ผมยังมีอาการเจ็บจี๊ดที่ใต้ชายโครงขวา ไม่ได้เจ็บตลอด มักจะเจ็บช่วงก่อนหรือทานอาหารเสร็จแล้ว แต่บางครั้งก็ไม่รู้สึก บางทีก็แน่นๆแถวลิ้นปี่ มีอาการคล้ายอาหารไม่ย่อย มีกรดในกระเพาะ และเช่นเคย ผมก็ค้นหาและพบว่าsilymarinมีผลข้างเคียงทำให้ปวดมวนท้อง ผมก็เลยลองหยุดยาอีกหลังจากทานมาได้38วัน พอหยุดไป3วัน อาการที่ว่าก็หายไปตั้งแต่วันแรก เจ็บจี๊ดใต้ชายโครงขวาก็เบาลง แต่พอมาวันที่4 อาการเจ็บจี๊ดเริ่มมานิดๆ ผมก็เริ่มกังวลเกี่ยวกับตับอีก เลยกลับมากินยาlivotone เช่นเดิม ตอนนี้ผมเริ่มทานยาได้สองวัน ยังไม่พบอาการไม่พึงประสงค์ ผมเน้นทานแต่ผักต้ม ปลานึ่ง ผลไม้ที่ให้น้ำตาลน้อย ตอนนี้น้ำหนักผมลงมาจาก75 เหลือ67 ในระยะเวลาประมาณเดือนครึ่ง ส่วนความดันก็กลับมาเป็นปรกติ(ผมหมั่นไปตรวจที่โรงพยาบาลใกล้บ้านทุกสัปดาห์) กว่าหมอจะนัดก็อีก2เดือนครึ่ง ผมอดที่จะกังวลไม่ได้เลยเกี่ยวกับตับ อยากทราบว่า ค่าตับSGPT ที่ขึ้นไปถึง144 มันรุนแรงมากหรือไม่อย่างไรครับ ยาlivotone(silymarin200mg)ช่วยรักษาตับอักเสบตับอ่อนอักเสบได้จริงๆใช่ไหมครับ และคุณหมอมีคำแนะนำในการรักษาหรือดูแลตัวเองในผู้ป่วยโรคนี้อย่างไรบ้างครับ ขอบระคุณมากนะครับ เขียนมาซะยาวเลย

    สวัสดีค่ะ คุณ thanapat18

    จากที่สอบถาม ระดับการทำงานของตับที่เกินกว่าค่าปกติ ไม่ถึง 5เท่า ถือว่า ยังไม่เป็นอันตรายค่ะ แต่ควรหาสาเหตุ รักษา และติดตามการรักษาอย่างสม่ำเสมอนะคะ

    หากเป็นกรณีที่มีตับอักเสบจากไขมันเกาะตับ การรักษานอกจากการใช้ยาลดไขมัน (เพื่อลดระดับไขมันในเลือด และลดการอักเสบของตับ) ควรทำร่วมกับการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมโดยการควบคุมอาหารและลดน้ำหนักค่ะ  

    สามารถอ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่ค่ะ

    ส่วนยา livotone (silymarin200mg)เป็นยาที่เป็นกลุ่มยาบำรุงตับ แต่ไม่ได้มีข้อมูลชัดเจนเรื่องการลดระดับไขมันในเลือด รวมถึงไขมันที่เกาะตับค่ะ

    ดังนั้นหากคนไข้สามารถปรับเปลี่ยนพฤติกรรม รวมถึงการใช้ยาลดไขมันจนระดับไขมันในเลือดควบคุมได้ดี  ตัวยาlivotone(silymarin200mg) นี้ จะไม่จำเป็นค่ะ

    จากที่คุณ thanapat18 เล่ามา หากคุณ thanapat18 สามารถควบคุมอาหารและลดน้ำหนักลงได้มาก คิดว่าแนวโน้มที่ผลการตรวจครั้งต่อไปน่าจะดีขึ้นมากนะคะ