ถามแพทย์

  • ฉีดวัคซีนพิษสุนัขบ้าบ่อยมาก เพราะขี้ระแวง อันตรายไหม

  •  Nattawut
    สมาชิก
    ปี59 หมากัดเเล้วฉีดวัคซีนพิษสุนัขบ้า5เข็ม 20 กันยา 60 โดนแมวกัด ฉีดกระตุ้น2เข็ม 28 กันยา 60 หมากัด กระตุ้น1เข็ม 4ตุลา 60 =กระตุ้น1เข็ม 6ตุลา60 = กระตุ้น1เข็ม 9 ตุลา60 = กระตุ้น1เข็ม 12ตุลา60 = กระตุ้น1เข็ม 18ตุลา60 = กระตุ้น1เข็ม 23ตุลา 60 = กระตุ้น1เข็ม 28ตุลา60 = กระตุ้น1เข็ม 17 พฤศจิกายน60 = กระตุ้น1เข็ม 20 พฤศจิกายร 60 = กระตุ้น1เข็ม เหตุที่ฉีดเเบบนี้เพราะขี้ระเเวง เจออะไรกัดก็ระเเวงต้องฉีดตลอด กลัว้หมือนกัน หมอก็ไม่ฉีดให้หรอกครับตามจริงแต่ไม่สบายใจต้องหา รพ.ใหม่ฉีดให้ได้ ●คำถามครับ การฉีดวัคซีนแบบผมนี้อันตรายมากน้อยเพียงใดครับ เพราะว่าเคยได้ยินวัคซีนที่ฉีดคือการเอาเชื้อมาสกัดแล้วฉีดเข้าไป การฉีดเยอะแบบผมนี้มีโอกาสที่วัคซีนจะพัฒนาหรือก่อตัวเป็นโรคพิษสุนัขบ้าหรือป่าวครับ ตอนนี้กลัวมากและคงไม่ฉีดอีกแล้ว

     สวัสดีค่ะ คุณ Priyapron,

                      วัคซีนป้องกันพิษสุนัขบ้าเป็นเชื้อที่ถูกทำให้ตายแล้ว การฉีดบ่อยๆ จึงไม่ได้ทำอันตรายจนถึงขั้นเป็นโรคพิษสุนัขบ้าได้ เพียงแต่อาจเกิดปฏิกิริยาเฉพาะที่ตรงบริเวณที่ฉีดได้มากขึ้นในการฉีดครั้งหลังๆ เช่น อาการปวด บวม แดง คัน เป็นตุ่มบริเวณที่ฉีด หรือมีอาการทางร่างกายอื่นๆ เช่น ปวดหัว เวียนหัว คลื่นไส้ ปวดท้อง ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ ปวดข้อ อ่อนเพลีย เป็นต้น

                  โดยปกติหากเป็นการฉีดวัคซีนป้องกันพิษสุนัขบ้าครั้งแรก วัคซีนจะใช้เวลาในการสร้างภูมิคุ้มกันต่อเชื้อจนสามารถตรวจพบได้ที่ประมาณ 14 วัน และจะมีระดับภูมิคุ้มกันสูงสุดที่ 30 วันหลังฉีด หากเป็นการฉีดกระตุ้น การสร้างภูมิคุ้มกันให้มีระดับที่สูงเพียงพอในการป้องกันเชื้อจะเกิดขึ้นได้เร็วกว่า และอยู่ในระดับที่สูงไปได้นานมากกว่า 30 วันเช่นกัน ดังนั้นในกรณีของคุณ Priyapron ซึ่งมีการฉีดวัคซีนกระตุ้นห่างกันในเวลาเพียงไม่กี่วันหรือกี่สัปดาห์ ถือเป็นการฉีดวัคซีนเกินความจำเป็นค่ะ

                   ในกรณีที่ต้องสัมผัสกับสัตว์ต่างๆ บ่อยๆ เช่น เป็นสัตวแพทย์ เป็นผู้ช่วยสัตวแพทย์ หรือทำงานในสวนสัตว์ หรือในสถานที่เกี่ยวข้องกับการสัมผัสสัตว์ หรือมักโดนสัตว์กัดและข่วนเป็นประจำอย่างในกรณีของคุณ Priyapron เมื่อเคยฉีดวัคซีนป้องกันพิษสุนัขบ้ามาครบแล้ว ให้ฉีดกระตุ้นซ้ำอีก 1 เข็มที่ 1 ปี และฉีดกระตุ้น 1 เข็มทุกๆ 3 หรือ 5 ปี ก็จะเป็นการกระตุ้นให้ร่างกายมีภูมิคุ้มกันต่อเชื้อพิษสุนัขบ้า ในระดับที่สูงไปตลอดเพียงพอที่จะป้องกันเชื้อจากการโดนกัดหรือข่วนซ้ำๆ ได้ โดยไม่จำเป็นต้องฉีดกระตุ้นทุกครั้งที่โดนกัดหรือข่วน แต่ทั้งนี้อาจต้องตรวจเลือดหาระดับภูมิคุ้มกันต่อเชื้อทุก ๆ 2 ปีว่าเพียงพอต่อการป้องกันเชื้อหรือไม่

    Nattawut  Nattawut
    สมาชิก
    แล้วสำหรับเคสของดิฉันนะคะ การฉีดเกินความจำเป็นไม่ก่อโรคพิษสุนัขบ้าแน่นอยใช่หรือไม่คะ

    ไม่ได้ทำอันตรายจนถึงขั้นเป็นโรคพิษสุนัขบ้าอย่างที่กล่าวไปค่ะ เพียงแต่อาจเกิดปฏิกิริยาเฉพาะที่ หรือผลข้างเคียงจากวัคซีนได้มากขึ้น 

    Nattawut  Nattawut
    สมาชิก
    แล้วถ้าสมมุติว้าหลังฉีดมาสัก1-2วันสัมผัสเชื้อพิษสุนัขบ้าอีกหรือโดนกัด จำเป็นต้องฉีดกระตุ้นอีกหรือไม่คะ

    ไม่จำเป็นค่ะ เนื่องจากระดับภูมิคุ้มกันยังคงสูงอยู่ค่ะ

    Nattawut  Nattawut
    สมาชิก
    คุณหมอคะตรงที่หมอบอกว่า"ไม่ได้ทำอันตรายจนถึงขั้นเป็นโรคพิษสุนัขบ้าอย่างที่กล่าวไปค่ะ" ข้อความนี้พยายามอ่านแต่ก็ยังไม่เข้าใจ คุณหมอคะหมายถึงว่า การฉีดเยอะเกินความจำเป็นของดิฉัน ไม่ก่อโรคพิษสุนัขบ้าแน่นอนใช่หรือป่าวคะ

    ใช่ค่ะ ไม่ได้ทำให้เป็นโรคพิษสุนัขบ้าค่ะ 

    แต่วัคซีนอาจทำให้เกิดปฏิกิริยาเฉพาะที่ ผลข้างเคียง หรือการแพ้รุนแรง ที่อาจอันตรายถึงขั้นเสียชีวิตได้ค่ะ 

    Nattawut  Nattawut
    สมาชิก
    คุณหมอคะขออนุญาติถามคำถามต่อนะคะ (ต่อจากคำถามเดิม) จากที่ดิฉันฉีดเยอะมากๆถี่มากๆอ่ะคะ #ฉีดวัคซีนถี่แบบดิฉัน ไม่ก่อโรคพิษสุนัขบ้าแน่นอนใช่หรือไม่คะ#