ถามแพทย์

  • ทานยาปรับฮอร์โมน แล้วมีเลือดออกกระปริบกระปรอย เกิดจากอะไร

  •  Kuilin Smile
    สมาชิก
    สวัสดีค่ะคุณหมอ พอดีอยากทราบว่า ประจำเดือนมาตั้งแต่วันที่24กุมภา63จนตอนนี้ ยังไม่หายไปพบหมอมาแล้วตรวจภายในแล้วหมอบอกปกติหมอให้ยาปรับฮอร์โมนเม็ดเล็กๆสีชมพูมาทาน คือยาpostmenop1Mg มาทาน ก่อนนอนวันละ1เม็ดให้มา20เม็ดตอนนี้ยาจะหมดแล้วยังไม่มีท่าทีจะหายแรกๆทานยาก็มาเยอะพอนานๆก็มากระปริดกระปรอยเลือดเป็นสีแดงสดบ้างสีคล้ำบ้างแปลบๆท้องน้อยไม่ถึงขั้นปวดจนทนไม่ไหวนะค่ะแค่แบบปวดเล็กๆน้อยๆบวกกับเอวค่ะปัจจุบัน ฝังยาคุมใต้แขนมา 1ปี8เดือนบวกให้นมลูกคะแรกๆฝังประจำเดือนมาไม่กี่วันหายหลังจากนั่นไม่เคยมาเเล้วมาตอนนี้นานมากเกิดจากอะไรคะช่วงนี้ก็ออกกำลังกายบ้างทำให้ประจำเดือนหายช้าไหมคะหรือว่าไม่เกี่ยวกันค่ะ
    Kuilin Smile  พญ.นรมน
    แพทย์

     สวัสดีค่ะคุณ Kuilin Smile

    ยาpostmenop1Mg หรือชื่อสามัญว่ายา estradiol เป็นยาฮอร์โมนเพศหญิงที่ใช้รักษาภาวะวัยทอง หรือภาวะต่างๆที่มีฮอร์โมนเพศมีระดับผิดไปจากปกติไป โดยใช้ภายใต้การดูแลของแพทย์ตามที่แพทย์สั่งเท่านั้น

    อาการเลือดออกกระปริดกระปรอยทางช่องคลอดดังกล่าวมานั้น อาจจะเป็นผลข้างเคียงจากยาฝังคุมกำเนิดได้เช่นกัน หรือเป็นจากการที่มีฮอร์โมนไม่สมดุลที่อาจจะเป็นอยู่เดิม แนะนำการกินยาปรับฮอร์โมนที่แพทย์จ่ายอย่างต่อเนื่อง และสังเกตอาการค่ะ ถ้าเลือดเริ่มออกมากขึ้นเรื่อยๆ ปวดหน่วงท้องน้อยมาก ควรจะกลับไปพบแพทย์ที่รักษาเพื่อตรวจร่างกายและตรวจภายในดูอีกครั้ง การใช้ยาฝังคุมกำเนิดอาจทำให้มีเลือดออกผิดปกติทางช่องคลอดหรือประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมอได้ แต่ควรตรวจหาดูก่อนว่าไม่มีสาเหตุที่เป็นความผิดปกติอย่างอื่นค่ะ