ถามแพทย์

  • ลูกอายุ 3 ปี 8 เดือน มีก้อนที่คอ พบหมอแล้วบอกเป็นต่อมน้ำเหลืองโต กินยาฆ่าเชื้อแล้วยังไม่ลดลง เป็นอะไร

  • เมื่อสัปดาห์ที่แล้วพบก้อนเนื้อบริเวณคอของลูกที่มีอายุ3ปี8เดือนได้พาไปพบแพทย์วินิจฉัยว่าน่าจะต่อมน้ำเหลืองโตและให้ยามาฆ่าเชื้อมากิน​ โดยหมอนัดอีกที่ประมาณ1สัปดาห์​ ขณะที่กินยาสังเกตว่าต่อมนั้นเล็กลงบางแต่เมื่อกินยาฆ่าเชื้อหมดต่อมน้ำเหลืองก็โตกลับมาเท่าเดิมประมาณ1.5ซม.อยากทราบว่าอาการแบบนี้เสี่ยงต่อโรคมะเร็งต่อมน้ำเหลืองหรือวัณโรคต่อมน้ำเหลืองไหมคะ

    สวัสดีค่ะ คุณ ยังคงมีแต่เธอ เหมือนเดิมไม่เคยเปลี่ยน,

                       ก้อนเนื้อที่อยู่บริเวณคอของลูก อาจเป็น

                       1. ต่อมน้ำเหลืองโต จากการอักเสบติดเชื้อของเนื่อเยื่อต่างๆ ทีอยู่บริเวณศีรษะและลำคอ เช่น เป็นไข้หวัด คออักเสบ ทอนซิลอักเสบ มีฟันผุ เหงือกอักเสบ เป็นต้น ทั้งนี้ แม้ว่าโรคเหล่านี้จะหายไปแล้ว แต่ต่อมน้ำเหลืองอาจยังคงโตได้เล็กน้อย โดยจะค่อยๆ เล็กลงจนคลำไม่ได้ในเวลาเป็นเดือน แต่หากเกิดโรคดังกล่าวบ่อยๆ ต่อนน้ำเหลืองก็อาจโตอยู่นานเป็นปีได้

                      2. ต่อมน้ำเหลืองอักเสบติดเชื้อจากโรคต่างๆ เช่น 

                            - ติดเชื้อไวรัสเอ็บสไตบาร์ หรือโรค infectious mononucleosis แต่เด็กจะมีไข้ร่วมด้วย รวมถึงมีเจ็บคอ มีฝ้าขาวในคอ ตับม้ามโต ตาเหลือง และมีผื่นที่ผิวหนัง

                           - ติดเชื้อวัณโรคทีต่อมน้ำเหลือง แต่จะมีไข้ มีเบื่ออาหาร น้ำหนักลดร่วมด้วย

                           - โรคแมวข่วน (cat scratch disease) เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียชนิดหนึ่งที่อยู่ในต่อมน้ำลายแมว หากโดนแมวข่วนตามแขน คอ หรือบ่อยๆ อาจเกิดการติดเชื้อได้ ทำให้มีไข้และต่อมน้ำเหลืองที่คอโต 

                        3. เป็นก้อนซีสต์ (ถุงน้ำ) และก้อนเนื้องอกชนิดต่างๆ เช่น dermoid cyst, ก้อนไขมัน ก้อนเนื้องอกหลอดเลือด

                       4. เป็นมะเร็งต่อมน้ำเหลือง แต่ต่อมน้ำเหลืองก็จะต้องโตขึ้นเรื่อยๆ มีจำนวนเพิ่มขึ้น และมักคลำได้แข็ง เคลื่อนที่ไม่ได้ และมักมีอาการอื่นๆ อีก เช่น ไข้ อ่อนเพลีย น้ำหนักลด เป็นต้น

                       ดังนั้น หากลูกไม่ได้มีไข้ ทานอาหารได้ตามปกติ ไม่มีน้ำหนักลด ไม่มีอาการปวดหรือเจ็บที่ก้อน ก้อนไม่โตขึ้น หรือมีจำนวนเพิ่มขึ้น ก็น่าจะเป็นต่อมน้ำเหลืองโตได้ ซึ่งก็จะค่อยๆ ยุบหายไปได้เองในเวลาเป็นสัปดาห์หรือเดือนค่ะ ไม่จำเป็นต้องทานยาฆ่าเชื้อใดๆ แต่หากก้อนมีขนาดโตขึ้นเรื่อยๆ หรือมีจำนวนเพิ่มขึ้น มีอาการปวด มีไข้ ก็ควรกลับไปพบแพทย์เพื่อตรวจอีกครั้งค่ะ