ถามแพทย์

  • มีเพศสัมพันธ์ ใส่ถุงยาง แล้วกินยาคุมกำเนิด มีแสบปัสสาวะ ปัสสาวะมีเลือดปน เป็นอะไร จะท้องไหม

  •  TaTine.C
    สมาชิก
    ขอสอบถามหน่อยคับผมมีเพศสัมพันธ์กับแฟนวันที่25เดือนนี้ไม่ใส่ถุงแค่แป๊บเดียวประมาน3วินาทีแล้วใส่ถุงต่อมาหลังมีเพศสัมพันธ์แล้วแฟนผมก็กินยาคุมชนิดฮอร์โมนรวม28เม็ด(เมอสิรอน28)หลังมีเพศสัมพันธ์รู้สึกแสบฉี่ก็แสบแล้ววันนี้วันที่28แฟนผมปัสสาวะแล้วมีเลือดออกมาด้วย อยากทราบว่าแฟนผมเป็นอะไร แล้วมีโอกาสท้องไหมครับ (เธอพึ้งหายเป็นประจำเดือนเมื่อวันที่17เดือนนี้ครับแล้วผมก็ไม่ได้หลั่งในด้วยครับหลั่งนอก

    สวัสดีค่ะ คุณ TaTine.C,

                          การมีเพศสัมพันธ์ในช่วงแรกที่ไม่ได้ใส่ถุงยางอนามัยนั้น หากสอดใส่เพียงครู่เดียว และไม่ได้มีการหลั่งน้ำอสุจิเกิดขึ้น โอกาสที่จะตั้งครรภ์ก็ไม่มีค่ะ ส่วนหลังจากนั้น หากได้ใส่ถุงยางอนามัย และมีเพศสัมพันธ์ต่อจนเสร็จ ก็จะมีโอกาสตั้งครรภ์ได้ประมาณ 2%-18% ค่ะ สำหรับยาคุมกำเนิด การทานหลังจากที่มีเพศสัมพันธ์ไปแล้ว จะไม่สามารถช่วยป้องกันการตั้งครรภ์ได้ เพราะต้องทานต่อเนื่องไปอย่างน้อย 7 วันก่อน ยาคุมจึงจะออกฤทธิ์ค่ะ

                         ส่วนอาการปัสสาวะแล้วแสบ ปัสสาวะแล้วมีเลือดปน น่าจะเกิดจาก การติดเชื้อทางเดินปัสสาวะส่วนล่าง ซึ่งสาเหตุของเชื้อ ได้แก่

                         - เชื้อแบคทีเรียชนิดต่างๆ มักเกิดตามหลังการกลั้นปัสสาวะหรือดื่มน้ำน้อย รวมถึงหลังการมีเพศสัมพันธ์ 

                        - เชื้อจากโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เช่น หนองในแท้ หนองในเทียม เริม ซึ่งนอกจากอาการปัสสาวะที่ผิดปกติแล้ว จะมีตกขาวที่ผิดปกติ และอาการปวดท้องน้อยร่วมด้วย รวมถึงอาการเจ็บขณะมีเพศสัมพันธ์

                        ในเบื้องต้นแนะนำให้ดื่มน้ำเปล่ามากๆ เพื่อช่วยขับเชื้อโรคออกมา หลีกเลี่ยงการดื่มชา กาแฟ หรือแอลกอฮอล์ ไม่กลั้นปัสสาวะ หลีกเลี่ยงการมีเพศสัมพันธ์ไปก่อนชั่วคราว หากอาการไม่ดีขึ้น  ก็ควรไปพบแพทย์เพื่อรับยารักษาค่ะ  

                        ส่วนการจะทราบว่ามีการตั้งครรภ์หรือไม่นั้น ก็ควรรอจนกว่าจะทานยาคุมจนหมดแผง หากมีประจำเดือนมาในช่วงที่ทานยาคุมที่เป็นเม็ดแป้ง ก็แสดงว่าไม่ได้มีการตั้งครรภ์เกิดขึ้น แต่หากไม่มีประจำเดือนมา ก็ควรตรวจหาการตั้งครรภ์ดูด้วยค่ะ