ถามแพทย์

  • มีเลือดออกจากช่องคลอดหลังมีประจำเดือน 2 อาทิตย์ เกิดจากอะไร

  •  Yoona Jieon
    สมาชิก
    สวัสดีค่ะ พอดีเรามีอะไรกันกับแฟน วันที่ 11 มี.ค แล้ววันที่ 12 มี.ค ประจำเดือนเราก็มา ตอนมีอะไรกันก็ป้องกันโดยการสวมถุงยางค่ะ และคิดว่าน่าจะไม่เป็นอะไีเำราะอยู่ในช่วงหน้า 7 วันปลอดภัย ผ่านมาประมาณ 2 สัปดาห์ปรากฎว่ามีเลือดออกมาปนกับระดูค่ะ เป็นมา3วันแล้ว อยากทราบว่าเป็นอะไรหรือป่าวคะ มันเกี่ยวกับการมีเพศสัมพันธ์หรือป่าว หรือมีโอกาสตั้งครรภ์หรือป่าวคะ
    Yoona Jieon  พญ.นรมน
    แพทย์

    สวัสดีค่ะคุณ Yoona Jieon

    การมีเลือดออกผิดปกติทางช่องคลอดที่ไม่ใช่ประจำเดือนอาจมีสาเหตุได้จาก

    -เนื้องอกมดลูก

    -ติดโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์เช่นหนองในแท้ หนองในเทียม

    -เนื้องอกหรือมะเร็งที่ปากมดลูก

    -การติดเชื้อที่มดลูก ปากมดลูก ช่องคลอด 

    -ภาวะแทรกซ้อนจากการตั้งครรภ์เช่น แท้ง ท้องนอกมดลูก

    -ความผิดปกติของรังไข่ทำให้ระดับฮอร์โมนเพศผิดปกติ จึงมีเลือดออกระหว่างรอบเดือน

    แนะนำควรไปพบสูตินรีแพทย์เพื่อหาสาเหตุค่ะ โดยแพทย์อาจซักประวัติเพิ่มเติม ตรวจภายใน ตรวจปัสสาวะดูการตั้งครรภ์และอัลตราซาวน์หน้าท้องดูว่ามีมดลูกหรือรังไข่ผิดปกติหรือไม่ค่ะ 

    สรุปคือไม่ได้เป็นสัญญาณบ่งบอกว่าตั้งครรภ์ แต่อาจเป็นภาวะแทรกซ้อนจากการตั้งครรภ์หรือโรคอื่นๆที่ต้องไปตรวจเพิ่มเติมค่ะ

    การดูแลตัวเองเบื้องต้น งดมีเพศสัมพันธ์ไปก่อน ไม่ซื้อยาปรับฮอร์โมนมากินเอง และหากมีเลือดออกมากขึ้นร่วมกับมีก้อนเนื้อปนออกมา ปวดหน่วงท้องน้อย ควรรีบไปพบแพทย์ค่ะ