ถามแพทย์

  • มีเลือดสีน้ำตาลออกที่ไม่ใช่ประจำเดือน ก่อนหน้านี้ 3 เดือนเคยมีเพศสัมพันธ์และกินยาคุมฉุกเฉินไป เลือดที่ออกเกิดจากอะไร อันตรายไหม

  •  mellomas
    สมาชิก

    เกริ่นก่อนว่าปลายเดือนเมษา มีเพศสัมพันธ์ใส่ถุงยางป้องกันทุกอย่าง ไม่มีการรั่วของถุงยางแต่เราไม่แน่ใจเพราะครั้งแรกเลยกินยาคุมฉุกเฉินเพิ่มเข้าไป และเป็นคนที่ประจำเดือนมาไม่ปกติอยู่แล้วเคยมาปรึกษาไปแล้วครั้งนึงด้วยค่ะ คุณหมอแนะนำให้ตรวจหลังครบ14วัน เราเลยนับวันตรวจ 7 วัน 14 วัน 1 เดือน ไม่พบการตั้งครรภ์ และตอนกินยาไปก็มีเลือดออกเหมือนประจำเดือนอยู่5-6วัน แต่มีความกังวลเลยตรวจอีกทีตอน 2 เดือน ก็ไม่พบการตั้งครรภ์ จากนั้นก็ปกติมาตลอด จน1สัปดาห์ที่ผ่านมา มีเลือดสีน้ำตาลออกจากช่องคลอดปริมาณน้อยมาก ไม่เลอะกางเกงในตอน3-4วันแรก พอมาวันที่5-6 มีมากขึ้นจนเลอะกางเกงใน แต่มาวันที่7-8 ก็น้อยจนไม่เลอะอีก ไม่มีกลิ่น ไม่คัน ไม่มีอาการปวดท้องร่วมหรืออาการผิดปกติอะไรอื่นๆเลย และจากวันที่มีเพศสัมพันธ์มาก็ครบ3เดือนแล้วเราตรวจครรภ์อีกรอบก็ไม่ขึน ทุกครั้งที่ตรวจจะตรวจตอนตื่นนอนและตรวจมากกว่า3อัน ก็ไม่ขึ้น2ขีด ไม่มีอาการอื่นผิดปกติจากการใช้ชีวิตปกติมาตลอดเลย แบบนี้คือไม่ท้องใช่ไหมคะ ไม่รู้ว่าเป็นเพราะกังวลเกินไปเลยส่งผลต่อร่างกายไหม แล้วการเกิดเลือดแบบนี้อันตรายไหมค่ะ ที่ผ่านมาไม่เคยมีเลือดแบบนี้ออกเลยค่อนข้างกังวล เพราะเพิ่งหายจากโควิดด้วยไม่รู้ว่าเกี่ยวกันไหมค่ะ

    mellomas  พญ.นรมน
    แพทย์

     สวัสดีค่ะคุณ mellomas

    การมีเลือดสีน้ำตาลออกที่ไม่ใช่ประจำเดือน คือไม่ได้มาตามรอบเดือนนั้น อาจจะเกิดมาจาก ผลข้างเคียงจากการใช้ยาคุมกำเนิดเช่นยาคุมฉุกเฉิน ซึ่งเกิดได้ภายในประมาณ 1-2 สัปดาห์หลังใช้ยา สาเหตุอื่นๆเช่น  ภาวะแทรกซ้อนจากการตั้งครรภ์ เลือดตามหลังการปฏิสนธิ การติดเชื้อที่ปากมดลูกหรือมดลูก การมีเนื้องอกที่มดลูกหรือปากมดลูก อวัยวะภายในอุ้งเชิงกรานอักเสบ

    จากที่กล่าวมา ถ้ากินยามานานแล้ว แต่ปัจจุบันยังมีเลือดออกอยู่ อาจจะเป็นเลือดจากสาเหตุอื่นๆนอกเหนือจากผลข้างเคียงยาค่ะ ส่วนการจะตั้งครรภ์หรือไม่นั้น ถ้าผ่านมาเกิน 10-14 วันหลังการปฏิสนธิ ชุดตรวจครรภ์น่าจะให้ผลตรวจที่เป็นบวกได้หากตั้งครรภ์จริง

    ถ้าไม่ได้ตั้งครรภ์ แต่ก็ยังมีเลือดออกกระปริดกระปรอย ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุอื่นๆเพิ่มเติมต่อไป อย่างที่กล่าวไปว่านอกจากภาวะแทรกซ้อนของการตั้งครรภ์หรือผลข้างเคียงจากยา ก็มีสาเหตุความผิดปกติของมดลูกหรือรังไข่ หรือความสมดุลของฮอร์โมนที่ทำให้เลือดออกผิดปกติได้ ในระหว่างนี้งดการมีเพศสัมพันธ์ถ้ายังมีเลือดออกผิดปกติ ไม่ซื้อยาปรับฮอร์โมนใดๆมาใช้เอง ส่วนการเพิ่งหายจากโควิด 19 ไม่น่าเป็นสาเหตุทำให้มีเลือดออกผิดปกติทางช่องคลอด