ถามแพทย์

  • มีเพศสัมพันธ์ ใส่ถุงยาง หลั่งนอก ผ่านไป 1 สัปดาห์ มีน้ำใสๆ ออกมา แล้วประจำเดือนยังไม่มา จะท้องไหม

  •  Chatri Manart
    สมาชิก
    สวัสดีค่ะ พอดีว่ามีเพศสัมพันธ์ หลังจากนั้นก็มีอาการแปลกๆดังนี้ค่ะ 1.ช่วงมีเพศสัมพันธ์ป้องกันนะคะ ถุงไม่แตก ไม่รั่ว นำมาเสร็จข้างนอกอีกด้วย แต่ว่าพบเป็นเมือกขาวๆ **น่าจะเป็นตกขาว ผสมกับน้ำหล่อลื่นค่ะ** 2.หลังจากนั้นไม่มีอาการผิดปกติ ก็ได้ออกกำลังกาย 3.หลังออกกำลังกายมีอาการปวดตัว แล้วก็ปวดท้อง คล้ายๆท้องผูกค่ะ 4.ครบ 1 อาทิตย์หลังมีเพศสัมพันธ์ ก็มีน้ำใส่ๆไหลออกจากช่องคลอดค่ะ 5.ปจด. ปกติจะมาช่วง 27-31 แต่ว่าตอนนี้ยังไม่มาเลยค่ะ (ปกติเป็นคนที่ประจำเดือนมาไม่ปกติอยู่แล้วด้วย) 6.ไม่มีเลือดซึมออกจากข่องคลอดเลยนะคะ ซักนิดก็ไม่มี อยากทราบว่าอาการแบบนี่เสี่ยงเป็นโรคอะไรหรือท้องไหมคะ

    สวัสดีค่ะ คุณ Chatri Manart,

                         หากมีเพศสัมพันธ์ โดยใส่ถุงยางอนามัยป้องกัน และใช้วิธีการหลั่งนอกร่วมด้วย โอกาสในการตั้งครรภ์ก็ถือว่ามีน้อยมากค่ะ

                         ส่วนเมือกขาวๆ ที่ออกมาจากช่องคลอดหลังมีเพศสัมพันธ์ ก็น่าจะเป็นน้ำหล่อลื่นของฝ่ายหญิงที่อาจมีตกขาวปนมาได้ ดังที่เข้าใจค่ะ

                         สำหรับอาการปวดตัว ปวดท้อง ที่เกิดหลังการออกกำลังกาย หากเป็นแค่ไม่นานแล้วหายไป ก็ไม่ได้บ่งบอกว่ามีอะไรผิดปกติ อาจเป็นแค่อาการปวดกล้ามเนื้อหลังการออกำลังกายก็ได้ 

                         หลังจากที่มีเพศสัมพันธ์ไป 1 สัปดาห์ การมีน้ำใสๆ ออกจากช่องคลอด ก็ถือเป็นตกขาวที่ปกติ ไม่ได้บ่งบอกอะไร ไม่ได้มีโรคอะไรค่ะ 

                          ส่วนการที่ประจำเดือนยังไม่มา แนะนำควรลองตรวจหาการตั้งครรภ์ดูก่อนเพื่อให้แน่ใจ หากตรวจไม่พบ จะได้ไม่ต้องกังวล และให้รอประจำเดือนต่อไปก่อนค่ะ การที่ประจำเดือนมาช้า อาจเกิดจากสาเหตุต่างๆ ได้ เช่น การมีความเครียด ทำงานหนัก ออกกำลังกายมากไป อดนอน มีน้ำหนักลด หรือมีน้ำหนักเพิ่มเร็ว เป็นต้น