ถามแพทย์

  • มีอาการปวดถ่ายอุจจาระบ่อยๆ ถ่ายแล้วเหมือนถ่ายไม่สุด ถ่ายแล้วก็ยังปวดอยู่

  •  Nook
    สมาชิก

    สวัสดีค่ะคุณหมอ หนูอายุ19ปี มีอาการปวดท้องน้อย เหมือนจะปวดบิดๆ หนูถ่ายอุจจาระแล้วก็ยังปวดอยู่ เหมือนถ่ายไม่สุด ถ่ายเหลวสลับกับถ่ายแข็งบางครั้ง แต่ถ่ายยากมากๆค่ะ ปวดอุจจาระแทบจะตลอดเวลา กังวลใจมากๆกลัวจะเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่ค่ะ แต่หนูไปตรวจอุจจาระที่โรงพยาบาลมาแล้ว หมอบอกว่าปกติดี ไม่มีเลือด แล้วหนูบอกหมอว่ากลัวเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่ คุณหมอบอกว่าอายุยังน้อยมาก โอกาสเป็นน้อยมากๆ แล้วญาติๆหนูไม่มีใครมีประวัติเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่เลย แต่หนูยังกังวลมากๆค่ะ คุณหมอสรุปว่าหนูเป็นลำไส้แปรปรวน แต่หนูกลัวมากๆค่ะ หนูจะเป็นมะเร็งลำไส้มั้ยค่ะ

    สวัสดีค่ะ

    อาการโรคลำไส้แปรปรวน มีดังนี้

    • มีอาการท้องเสียสลับท้องผูก โดยที่บางรายอาจจะมีท้องเสียหรือท้องผูกมากกว่า
    • มีอาการปวดท้อง หรือไม่สบายท้อง โดยอาการเหล่านี้มักจะดีขึ้นหลังการขับถ่าย หรือมีอาการปวดไม่สบายท้องร่วมกับมีความเปลี่ยนแปลงความถี่ของการขับถ่าย และลักษณะของอุจจาระเปลี่ยนไป 
    • มีอาการต่อเนื่องนานมากกว่า 6 เดือน 
    • ปัจจัยที่ทำให้โรคกำเริบ เช่น อาหารมัน หัวหอม กระเทียม, ยาที่มีฤทธิ์ระคายเคืองทางเดินอาหาร, ความเครียดทางด้านร่างกายและจิตใจ, การติดเชื้อในทางเดินอาหาร
    • โรคนี้วินิจฉัยจากอาการและการตรวจร่างกาย มักไม่จำเป็นต้องทำการตรวจเลือดหรือเอกซเรย์เพิ่มเติม

    ส่วนอาการของโรคมะเร็งลำไส้นั้น จะแตกต่างกับโรคลำไส้แปรปรวนดังนี้

    • มักพบในคนอายุมาก มัก 50 ปีขึ้นไป ยกเว้นคนที่มีประวัติครอบครัวเป็นโรคมะเร็งลำไส้ อาจพบมะเร็งได้ตั้งแต่อายุน้อย สาเหตุที่มักพบในคนอายุมากคือ เซลล์มะเร็งในลำไส้จะใช้เวลาในการเติบโตช้าเป็น 10 ปี จึงไม่ค่อยพบในคนอายุน้อยๆ 
    • มักมีอาการผิดปกติรุนแรง มีน้ำหนักลดมากหลายกิโลต่อเดือนโดยไม่มีสาเหตุอย่างอื่น
    • มีอาการถ่ายเป็นเลือด หรือมูกเลือด
    • มีอาการซีดโดยไม่มีสาเหตุอย่างอื่น
    • ตรวจร่างกายพบอาการผิดปกติอย่างอื่น เช่น ตับโต ก้อนในท้อง ซีด ตัวตาเหลือง
    • มีอาการปวดท้องจนรบกวนการนอน หรือปวดขณะนอนหลับ
    • การตรวจเพิ่มเติม เช่น การส่องกล้องทางทวารหนัก

    ดังนั้นแนะนำให้คนไข้รักษาตามที่ได้รับมา แต่ถ้ายังกังวลเรื่องมะเร็งมากๆ สามารถหาข้อมูลและตัดสินใจเรื่องส่องกล้องทางทวารหนักได้ค่ะ