ถามแพทย์

  • มีอาการปวดท้องถ่ายเหลวทุกเช้า เป็นมา 2 เดือน หมอบอกเป็น IBS และอุจจาระมีเม็ดเลิอดปน ต้องทำอย่างไร

  •  nanata
    สมาชิก
    สวัสดีค่ะ หนูอายุ 21 ปี มีอาการปวดท้องทุกเช้าและจะถ่ายเหลวแต่ไม่ใช่ลักษณะเป็นน้ำ จะเป็นแบบนี้ทุกวันค่ะ เป้นมาได้2เดือนแล้ว หลังถ่ายตอนเช้าก่อนรับประทานอาหารมีอาการปวดท้องจี๊ดๆด้านซ้ายร่วมด้วยค่ะ และเวลารับประทานอาหารเสร็จจะผายลมบ่อยแล้วจากนั้นจะปวดอุจจาระทันทีค่ะ ต้องเข้าห้องน้ำเดี๋ยวนั้น อั้นอุจจาระไม่ได้ ไปหาหมอมาแล้วแต่หมอเก็บผมอุจจาระไปตรวจ อย่างอื่นปกติค่ะไม่พบการติดเชื้อ แต่มีเม็ดเลือดปนในอุจจาระ แต่ก้ยังวินิจฉัยว่าเป็น ibs ค่ะ เลยไปรักษาต่อที่ รพ. คุณหมอที่ รพ. เจาะเลือดไปตรวจค่าเลือดปกติค่ะ และก็วินิจฉัยว่าเป็น ibs อีก แล้วให้เหตุผลว่าอายุยังน้อยและครอบครัวไม่มีคนเป็นมะเร็งมาก่อน แต่หนูกังวลใจกับผลตรวจอุจจาระค่ะกลัวมีก้อนเนื้อ เพราะการถ่ายยังไม่กลับมาเป็นปกติแถมมีอาการปวดท้องร่วมด้วยบ่อยๆ แต่อุจจาระถ้ามองด้วยตาเปล่าก็มีสีเหลืองปกติค่ะ และไม่มีมูกเลือดปน ถามคุณหมอเรื่องผลตรวจที่มีเม็ดเลือดปนจะเป้นอะไรไหมคุณหมอบอกว่า ibs อาจมีลำไส้อักเสบร่วมด้วยก็ได้ แล้วก้ไม่ให้ยาอะไรมาเลยค่ะ อยากถามคุณหมอว่าจริงไหมค่ะ แล้วควรทำอย่างไรต่อไปดี

     สวัสดีคะคุณ nanata

    ภาวะท้องเสีย หรือ ท้องร่วงบ่อย ๆ เป็นระยะเวลานานกว่าสองสัปดาห์ อาจจะต้องมองดูเรื่องของภาวะอื่นนอกจาการติดเชื้อ ในกรณีของคนที่มีภูมิคุ้มกันปรกติค่ะ 

    การติดเชื้อบางชนิดสามารถทำให้มีปัญหาอุจจาระเหลวได้เป็นระยะเวลานาน เช่น วัณโรคในระบบทางเดินอาหารลำไส้ค่ะ ซึ่งอาจจะทำให้คนไข้มีปัญหาท้องเสียนานได้ค่ะ

    อีกอย่างค่ะ ที่มักจะพบบ่อยคือเรื่องของ Irretable bowel syndrome ซึ่งตอนนี้เชื่อว่าสามารถเกิดจากการแพ้อาหารที่รับประทาน เช่น แป้ง หรือ ผลิตภัณฑ์จากนม ค่ะ ทำให้มีปัญหาท้องเสียบ่อยๆได้ค่ะ 

    การตรวจอุจจาระ ถ้าปรกติ ก็สามารถบอกได้ค่ะว่าไม่มีปัญหาติดเชื้อ หรือ มีเม็ดเลือดออกมากับอุจจาระค่ะ ทำให้คิดถึงเรื่องของมะเร็งน้อยค่ะ 

    ถ้าอุจจาระมีเลือดปนต้องทำการส่องกล้องตรวจค่ะ เพราะการอักเสบ ของลำไส้ จะทำให้มีเม็ดเลือดแดงและเม็ดเลือดขาวปนออกมากับอุจจาระได้ค่ะ