ถามแพทย์

  • ผมมีตุ่มพองขึ้นบริเวณโคนขนที่อวัยวะเพศ

  •  ENTEI_1994
    สมาชิก

    ช่วงหลังปีใหม่ที่ผ่านมาไม่กี่วัน ผมรู้ระคายเคืองบริเวณขนรอบๆส่วนนั้นมาก สักพักเริ่มเจ็บๆ และมีตุ่มสีแดงๆขึื้นและเป็นสีเหลืองๆคลายสิว และใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ และเจ็บมาก จึงได้ไปพบแพทย์ที่คลินิคให้คำปรึกษาทางเพศสัมพันธ์ ผู้ตรวจ(ไม่ใช่แพทย์ แต่เป็นพยาบาล) ได้ดูอาการและบอกว่าเป็น"เริม"  จึงให้ยา Avyclovir 200 mg มารับประทาน 7 วัน และ ยาแบบทาอีก 7 วัน ทาทุก 4 ชั่วโมง วันละ 5 ครั้ง แต่วันนี้เพิ่งทานยาหมดไปแล้ว แต่อาการยังไม่มีท่าทางว่าจะหายเลย และยังมีตุ่มพองขึ้นในลักษณะเดียวกัน แต่ครั้งนี้เป็นกลางที่ต้นขาซ้ายด้านหลัง  1 จุด อาการเจ็ยแบบเดียวกันที่เป็นเป็นตอนแรกเลยครับ ตอนรู้ตัวหลังเลิกงานก็ค่ำแล้ววันนี้เลยยังไม่ได้ไปพบแพทย์ เลยอยากสอบถามแพทย์ทุกท่าน ว่าอาการที่ผมเป็นนี้ใช่เริม แบบทั่วหรือไม่ครับ หรือ ผมเป็นอย่างอื่นที่ไม่ใช่เริมรึป่าวครับ 

    ทั้งนี้ผมได้แนบภาพประกอบเพื่อการวินิฉัยด้วยครับ ภาพ 1 2 คือตอนที่เป็นครั้งแรกและเป็นอาการล่าสุด ภาพ 3 คือ ตุ่มพองล่าสุดที่เป็น  อาการเดียวกับภาพ 1 2 ในตอนแรกคระบ

     

    Pic 1Pic 3

    Pic 2

     สวัสดีค่ะ คุณ ENTEI_1994,

                       ตุ่มนูนแดง มีหัวหนองบริเวณหัวหน่าว มีอาการเจ็บ อาจเป็น

                       1. รูขุมขนอักเสบ ซึ่งเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียหรือเชื้อรา มีกมีสาเหตุมากจากถอนหรือโกนขน หรือการสวมใส่เสื้อผ้าที่รัดแน่นหรือมีเนื้อผ้าหยาบเกินไป ทำให้เสียดสีผิวหนังและเกิดการระคายเคือง อาการคือจะเป็นตุ่มแดงๆ และอาจมีหนองเกิดขึ้น ดูคล้ายสิว มีอาการเจ็บ และคันร่วมด้วย มักเกิดขึ้นหลายๆตุ่ม

                    2.โรคเริมที่อวัยวะเพศ เป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ แต่มักจะพบที่องคชาต หรืออาจพบได้ที่ถุงอัณฑะ รอบรูทวารหนัก ขาหนีบ ไม่คอยพบบริเวณหัวหน่าว อาการจะเริ่มต้นด้วยแสบๆคันๆ บริเวณที่จะเป็นนำมาก่อน แล้วตามด้วยการเกิดเป็นตุ่มน้ำใส ขนาดเล็กๆ หลายๆตุ่ม อยู่ติดๆ กันเป็นกลุ่ม ซึ่งจะมีอาการปวด เจ็บๆแสบๆ อาจร่วมกับอาการคัน ต่อมาตุ่มน้ำจะแตกออกเป็นแผลตื้นๆ แล้วจึงแห้งและตกสะเก็ดหายไปได้เอง โดยหากเป็นครั้งแรกอาการจะเป็นอยู่นาน 2-4 สัปดาห์ บางรายอาจปัสสาวะแสบขัด มีไข้ อ่อนเพลีย และต่อมน้ำเหลืองที่ขาหนีบโตได้ 

                      หากคุณ ENTEI_1994 ได้ทานยา acyclovir มาได้ 7 วันแล้ว หากเป็นเริม ตุ่มนูนดังกล่าวน่าจะเริ่มแห้งและตกสะเก็ด และไม่ควรมีตุ่มใหม่ขึ้นมาอีก ดังนั้นอาการที่เป็นน่าจะไม่ใช่โรคเริมค่ะ โดยอาจเป็นรูขุมขนอักเสบดังที่กล่าวไป ซึ่งหากมีจำนวนหลายตุ่มและเป็นบริเวณกว้าง ควรทานยาปฏิชีวนะสำหรับฆ่าเชื้อแบคทีเรีย เช่น dicloxacilln เป็นต้น ร่วมกับการดูแลความสะอาด ได้แก่ การล้างบริเวณที่เป็นด้วยสบู่ที่ผสมยาฆ่าเชื้อ อย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง และเช็ดด้วยผ้าสะอาดให้แห้ง หลีกเลี่ยงการโกนขนและถอนขน ใส่กางเกงชั้นในและกางเกงที่ไม่รัดแน่นเกินไป เป็นต้น