ถามแพทย์

  • มีก้อนเนื้อบริเวณโคนขาหนีบ ทานยาแล้วยังไม่ยุบ จะเป็นอันตรายไหม

  •  Yuyuki
    สมาชิก
    สวัสดีค่ะ พอดีมีอาการมีก้อนเนื้อตรงบริเวณโคนขาหนีบเมื่อวันที่ 29/10/62 มีอาการเจ็บนิดหน่อย ไปหาหมอมาหมอบอกว่าเป็นต่อมน้ำเหลืองอักเสบ ก้อนเนื้อเท่าเม็ดถั่วแดง กลิ้งไปกลิ้งมาได้ หมอให้ยามากินแต่ไม่หาย เลยไปหาหมออีกครั้ง หมอก็ให้ยามากินตามเดิม หมอบอกว่าจะยุบไปเองตามธรรมชาติ แต่ต้องใช้เวลา ครั้งที่ 2 หมอให้ยามากิน 14 วัน แต่ก็ยังไม่หาย และได้หยุดยาไปปล่อยให้ยุบเองหลังจากหยุดยาก็คลำดู ก้อนยุบลงนิดนึง แต่วันนี้ 12/12/62 คลำเจอนูนๆมีอาการเจ็บนิดหน่อย อีกข้างนึง อยากถามว่าร้ายแรงหรือเปล่าคะ มีโอกาสเป็นมะเร็งต่อมน้ำเหลืองได้ไหม
    Yuyuki  พญ.นรมน
    แพทย์

    สวัสดีค่ะคุณ Yuyuki

    ก้อนบริเวณขาหนีบอาจเกิดจาก

    -ต่อมน้ำเหลืองบริเวณขาหนีบโต มักเกิดตามหลังการติดเชื้อบริเวณอุ้งเชิงกรานหรืออวัยวะเพศ หากการติดเชื้อดังกล่าวดีขึ้นแล้ว ต่อมจะค่อยๆยุบไปเอง ไม่ลุกลามไปที่อื่น ถ้าลุกลามอาจจะต้องนึกถึงสาเหตุอื่นๆเช่นการติดเชื้อเรื้อรัง หรือมะเร็งต่อมน้ำเหลือง

    -ก้อนเนื้องอกไขมัน ไม่อันตราย เป็นก้อนกลมเรียบ ไม่เจ็บ

    -รูขุมขนอักเสบ

    -รูขุมขนที่อักเสบแล้วมีการติดเชื้อทำให้มีลักษณะคล้ายเม็ดสิว

    -ฝีที่ผิวหนัง

    -การติดเชื้อใต้ชั้นผิวหนัง อาจปวด บวม แดง ร้อน มีไข้

    -ตุ่มถูกแมลงกัด

    -ตุ่มจากผื่นผิวหนังอักเสบเฉียบพลัน

    แนะนำไม่ไปแกะหรือบีบก้อนเองเพราะอาจเพิ่มโอกาสการติดเชื้อ ใช้น้ำเปล่าสะอาดล้างภายนอกได้ ไม่เอายาอะไรไปทาเอง

    ควรไปพบแพทย์เมื่อก้อนเจ็บมาก ขยายขนาดเร็ว ปวด บวม แดง ร้อน มีไข้ หรือลุกลามไปยังบริเวณอื่น การรักษาจะขึ้นกับการวินิจฉัยค่ะ ถ้าเป็นเรื่องต่อมน้ำเหลืองอักเสบหรือติดเชื้ออาจต้องได้ยาฆ่าเชื้อ แต่ถ้าลุกลาม ก้อนโตขึ้น อาจต้องมีการตัดชิ้นเนื้อตรวจร่วมด้วยค่ะ