เป็นฝีไม่มีหัวมา 2-3 วัน ใช้เข็มเจาะแล้วไม่มีหนองออกมา อีกซักระยะจะมีหัวหนองไหม ควรทำอย่างไร

 สวัสดีค่ะ คุณ เอ พงษ์ประยูร,

                       หากอาการที่เป็นอยู่ คือผิวหนังมีตุ่มบวมแดง โดยที่ยังไม่เห็นหัวหนอง หรือไม่มีหนองไหลออกมา ก็น่าจะเป็นการอักเสบของเนื้อเยื่อ (cellulitis) หรือเซลล์เนื้อเยื่อใต้ผิวหนังและผิวหนังเกิดการอักเสบติดเชื้อขึ้น ซึ่งยังไม่ได้เรียกว่าเป็น ฝี 

                       สาเหตุ อาจเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียจากผิวหนังที่มีรอยแผล หรือรอยแยกเล็กๆ หรือแผลถลอกเล็กๆ ที่อาจเกิดจากการเกา เมื่อผิวหนังมีรอยแยกดังกล่าว เชื้อโรคก็จะเข้าสู่ผิวหนังชั้นและเนื้อเยื่อทำให้เกิดการติดเชื้ออักเสบได้

                      เมื่อมีการอักเสบของเนื้อเยื่อดังกล่าว หากไม่ได้รับการรักษา หรือร่างกายไม่สามารถกำจัดเชื้อโรคได้ หรือเชื้อโรคมีความรุนแรงหรือมีการติดเชื้อแบคทีเรียอื่นๆ เพิ่มเติม การอักเสบดังกล่าวก็จะกลายฝีหนองตามมา คือจะเห็นหัวสีขาวๆ หรือกดแล้วนิ่มๆ หากผิวหนังมีรูเปิด ก็อาจเห็นหนองไหลออกมา

                      นอกจากนี้แล้ว ตุ่มบวมแดงที่ผิวหนัง อาจเป็น

                     - ถุงน้ำหรือซีสต์ใต้ผิวหนัง ซึ่งปกติจะคลำได้เป็นก้อนค่อนข้างนิ่ม มักไม่เจ็บไม่ปวด แต่หากถุงน้ำมีรอยแยกหรือแตกออกจากการกระแทก หรือมีแผลที่ผิวหนังบริเวณถุงน้ำ ก็จะทำให้ติดเชื้ออักเสบตามมาได้ ซึ่งก็จะทำให้คลำได้เป็นก้อนแข็ง ปวดเจ็บ บวมแดง

                     - เป็นเนื้องอกชนิดต่างๆ ใต้ผิวหนังหรือในชั้นเนื้อเยื่อ หากก้อนเหล่านั้นมีการติดเชื้ออักเสบก็จะทำให้บวมแดงได้ค่ะ

                      ในเบื้องต้น ไม่ควรใช้เข็มเจาะผิวหนังค่ะ เพราะยิ่งอาจเป็นช่องทางให้เชื้อโรคเข้าไปได้มากขึ้น หากตุ่มที่เป็นคือเนื่อเยื่อที่อักเสบ และมีขนาดเล็ก ก็จะสามารถหายเองได้จากระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย โดยอาจใช้ยาฆ่าเชื้อ เช่น โพไวโดน ไอโอดีน (povidone iodine) ทาบริเวณที่มีการอักเสบ เพื่อให้หายเร็วขึ้น แต่หากอาการไม่ดีขึ้นภายใน 2-3 วัน หรือตุ่มขยายใหญ่ขึ้น หรือหลายเป็นฝีหนอง แนะนำควรไปพบแพทย์เพื่อวินิจฉัยและรับการรักษที่ถูกต้องค่ะ ซึ่งหากเป็นฝี ต้องอาศัยทั้งการทานยาปฏิชีวนะฆ่าเชื้อและการผ่าระบายเอาหนองออกให้หมดค่ะ