ถามแพทย์

  • มีตุ่มเเดงๆ ขึ้นที่ข้างๆ ตาตุ่ม บวมเจ็บมาก เดินเเทบไม่ได้ ควรทำอย่างไร

  •  Wachiraporn Kaewto
    สมาชิก
    หนูมีตุมเเดงๆๆขึ้นที่ข้างงๆๆตาตุมค่ะมันเเดงบวมเจ็บมากค่ะเเละเดินเเถบไม่ได้

    สวัสดีค่ะ คุณ Wachiraporn Kaewto,

                       ตุ่มแดงๆ ที่ตาตุ่ม ร่วมกับอาการบวมและเจ็บ โดยที่ยังไม่เห็นหัวหนอง หรือไม่มีหนองไหลออกมา ก็น่าจะเป็นการอักเสบของเนื้อเยื่อ (cellulitis) ซึ่งคือการที่เซลล์เนื้อเยื่อใต้ผิวหนังและผิวหนังเกิดการอักเสบติดเชื้อขึ้น ยังไม่ได้เรียกว่าเป็น ฝี 

                       สาเหตุ อาจเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียจากผิวหนังที่มีรอยแผล หรือรอยแยกเล็กๆ หรือแผลถลอกเล็กๆ ที่อาจเกิดจากการเกา เมื่อผิวหนังมีรอยแยกดังกล่าว เชื้อโรคก็จะเข้าสู่ผิวหนังชั้นและเนื้อเยื่อทำให้เกิดการติดเชื้ออักเสบได้

                      เมื่อมีการอักเสบของเนื้อเยื่อดังกล่าว หากไม่ได้รับการรักษา หรือร่างกายไม่สามารถกำจัดเชื้อโรคได้ หรือเชื้อโรคมีความรุนแรงหรือมีการติดเชื้อแบคทีเรียอื่นๆ เพิ่มเติม การอักเสบดังกล่าวก็จะกลายฝีหนองตามมา คือจะเห็นหัวสีขาวๆ หรือกดแล้วนิ่มๆ หากผิวหนังมีรูเปิด ก็อาจเห็นหนองไหลออกมา

                      นอกจากนี้แล้ว ตุ่มแดงที่ตาตุ่ม อาจเป็น

                     - ถุงน้ำหรือซีสต์ใต้ผิวหนัง ซึ่งปกติจะคลำได้เป็นก้อนค่อนข้างนิ่ม มักไม่เจ็บไม่ปวด แต่หากถุงน้ำมีรอยแยกหรือแตกออกจากการกระแทก หรือมีแผลที่ผิวหนังบริเวณถุงน้ำ ก็จะทำให้ติดเชื้ออักเสบตามมาได้ ซึ่งก็จะทำให้คลำได้เป็นก้อนแข็ง ปวดเจ็บ บวมแดง

                     - เป็นเนื้องอกชนิดต่างๆ ใต้ผิวหนังหรือในชั้นเนื้อเยื่อ หากก้อนเหล่านั้นมีการติดเชื้ออักเสบก็จะทำให้บวมแดงได้ค่ะ

                      ในเบื้องต้น หากมีเฉพาะตุ่มบวมแดง ไม่เห็นหัวหนอง และไม่มีหนองไหล อาจทานยาปฏิชีวนะฆ่าเชื้อ เช่น ไดคลอกซาซิลลิน (dicloxacillin), อิริโทรมัยซิน (erythromycin) เป็นต้น โดยที่ต้องไม่แพ้ยาเหล่านี้ และควรปรึกษากับเภสัชกรถึงปริมาณยาที่เหมาะสมกับน้ำหนักตัวและอายุด้วยค่ะ  แต่หากเห็นหัวหนองหรือมีหนองไหลออกมา หรือไม่แน่ใจ ก็ควรไปพบแพทย์ค่ะ ซึ่งหากเป็นฝี ต้องอาศัยทั้งการทานยาปฏิชีวนะฆ่าเชื้อและการผ่าระบายเอาหนองออกให้หมดค่ะ นอกจากนี้ ก็ควรงดการเดินมาก ไม่วิ่ง ใส่รองเท้าที่ไม่ไปเสียดสีกับตุ่มที่เป็นอยู่ด้วยค่ะ