เป็นฝีที่ก้น แตกออกแล้ว ผ่านไป 3-4 วัน มีเนื้อปูดๆนิ่มๆ คันบ้าง บีบแล้วมีแต่เลือด เกิดจากอะไร ทำอย่างไร

สวัสดีค่ะ คุณ Satita Wareewanit,

                      หากฝีได้แตกออก และหนองได้ไหลออกจนหมดแล้ว แผลที่เกิดจากฝี ก็จะค่อยๆ ถูกซ่อยแซมและสมานตัวโดยเนื้อเยื่อที่เป็นพังผืด ซึ่งจะมีลักษณะแข็งและไม่ยืดหยุ่นเหมือนกับผิวหนังและเนื้อเยื่อชั้นใต้ผิวหนัง แต่โดยปกจิ การสร้างเนื้อเยื่อของพังผืดจะไม่นูนเกินระดับของผิวหนังปกติที่อยู่โดยรอบ ดังนั้น หากคลได้เป็นก้อนนูนนิ่มๆ และมีอาการคันเล็กน้อย โดยที่ไม่มีอาการเจ็บและปวด ก็ไม่ใช่ฝีหรือเกิดการอักเสบขึ้นมาใหม่ แต่น่าจะเป็น

                   - แผลเป็นชนิดนูนหนาธรรมดา (hypertrophic scar) แผลเป็นชนิดนี้มักจะพบได้ในช่วงระยะ 6 เดือนแรก หลังจากนั้นก็จะค่อยๆยุบลง และจะกลับเข้าสู่แผลเป็นคงที่ (stable scar) มีลักษณะใกล้เคียงแผลเป็นปกติในช่วงประมาณ 1 ปี

                    ดังนั้น หากเพิ่งหายจากการเป็นฝี แนะนำให้ใช้วิธีกดนวดบริเวณแผลเป็นบ่อยๆ และอาจใช้ทายาสำหรับรักษารอยแผลเป็นทาร่วมด้วย หรือใช้แผ่นซิลิโคนปิดแผล ทำต่อเนื่องนานเป็นเดือน 

                -  แผลเป็นชนิดคีลอยด์ (keloid) ซึ่งเกิดจากร่างกายมีการซ่อมแซมของชั้นผิวหนังที่มากผิดปกติ แผลจะนูนออกมาจากขอบแผลเดิมค่อนข้างมาก มักจะเกิดในผู้ที่มีผิวสีเข้ม หรือมีประวัติทางพันธุกรรม คือ มีประวัติการเกิดคีลอยด์ในพ่อหรือแม่ แต่ตำแหน่งที่เกิดได้บ่อย ได้แก่ หัวไหล่ ติ่งหูและกลางหน้าอก หากเป็นไม่นาน มักจะคลำได้ค่อนข้างนิ่ม แต่หากเป็นนานแล้ว ก้อนมักแข็ง และมักมีอาการคันร่วมด้วย

                  การรักษาทำได้โดยการฉีดยาที่มีส่วนผสมของสเตียรอยด์เข้าไปที่แผล นอกจากนี้ก็มีวิธีเลเซอร์ หรืออาจพิจารณาผ่าตัดหากแผลมีขนาดใหญ่