ถามแพทย์

  • หลังมีเพศสัมพันธ์ มีแสบขณะปัสสาวะ มีตุ่มขึ้น ตกขาวเหมือนหนอง หาหมอได้ยาแล้วไม่ดีขึ้น

  •  knxyz
    สมาชิก

    แสบตอนปัสสาวะ

    ประจำเดือนมาวันที่1 และหมดวันที่7 วันที่8เลยเปิดห้องกับแฟนแต่ไม่ได้สอดใส่แค่ถูไถ แต่ใส่ถุงยาง และใช้นิ้ว ทีนี้ตอนล้างมันแสบมากค่ะ และกังวลมากเลยซื้อยาคุมฉุกเฉินมากินวันที่8เลย วันที่9 ฉี่แล้วแสบอยู่ค่ะ วันที่10 หายแสบแล้วเลยลองใช้นิ้วตัวเอง แล้วตอนกลางคืนที่หลับแล้วคันน่าจะเผลอไปเกา ตื่นมาวันที่11 ปัสสาวะแล้วแสบมากค่ะ แสบภายนอก เลยลองส่องดู ปรากฏว่ามีรอยแดงๆถลอกนิดหน่อยบริเวณแคมค่ะ วันที่12 แคมที่แดงเมื่อวานยังแดงอยู่ แคมอีกข้างคือเริ่มบวม แสบมากตอนปัสสาวะ และมีคล้ายๆตกขาวแต่เป็นสีออกเหลืองๆเหมือนหนอง และมีกลิ่นเค็มเหม็นมาก วันที่13 ทั้งแสบทั้งเจ็บภายนอก แคมที่เคยแดงมีตุ่มขึ้นคล้ายๆเริม 2 เม็ด และมีตกขาวคล้ายหนองมากขึ้นกว่าเดิม วันที่14 แสบมากๆเลยไปหาหมอทั่วไป เพราะหมอเฉพาะทางหยุดสงกรานต์ ตอนไปหาหมอยังไม่มีเลือดค่ะ หมอให้ยา Ambufen 400 mg กับ Ciproxyl 500mg มา ละทีนี้กลับมาถึงบ้าน เลือดออกนิดหน่อย พออาบน้ำเสร็จ เลือดเยอะมากแบบประจำเดือนเลยค่ะ เลยใส่ผ้าอนามัยไว้ ไม่แน่ใจว่าเป็นผลค้างเคียงจากยาคุมฉุกเฉินหรือว่าเป็นเพราะปัสสาวะแสบขัด เหมือนเลือดจะออกจากช่องคลอดนะคะ วันที่15 มีเลือดมาเยอะมาก ปวดหลัง เหมือนประจำเดือนมาเลย และมีสีเหลืองๆคล้ายหนองปนมาด้วยค่ะ ควรทำยังไงดีคะ

    หนูกังวลมากๆ เรื่องของ น่าจะเป็นเริมที่แคม และ เลือดมันออก มันทำความสะอาดยากมากค่ะ ปัสสาวะก็แสบมาก กลัวจะติดเชื้อซ้ำซ้อนค่ะ หนูควรไปหาหมออีกครั้งมั้ยคะ หรือลองทานยาให้หมดก่อนดี หมอเฉพาะทางมาวันที่18 กันหมดเลยค่ะ ช่วยหนูด้วยนะคะ เครียดมากๆ

    knxyz  knxyz
    สมาชิก

    knxyz
    Apr 15, 2022 at 09:17 AM

    แสบตอนปัสสาวะ

    ประจำเดือนมาวันที่1 และหมดวันที่7 วันที่8เลยเปิดห้องกับแฟนแต่ไม่ได้สอดใส่แค่ถูไถ แต่ใส่ถุงยาง และใช้นิ้ว ทีนี้ตอนล้างมันแสบมากค่ะ และกังวลมากเลยซื้อยาคุมฉุกเฉินมากินวันที่8เลย วันที่9 ฉี่แล้วแสบอยู่ค่ะ วันที่10 หายแสบแล้วเลยลองใช้นิ้วตัวเอง แล้วตอนกลางคืนที่หลับแล้วคันน่าจะเผลอไปเกา ตื่นมาวันที่11 ปัสสาวะแล้วแสบมากค่ะ แสบภายนอก เลยลองส่องดู ปรากฏว่ามีรอยแดงๆถลอกนิดหน่อยบริเวณแคมค่ะ วันที่12 แคมที่แดงเมื่อวานยังแดงอยู่ แคมอีกข้างคือเริ่มบวม แสบมากตอนปัสสาวะ และมีคล้ายๆตกขาวแต่เป็นสีออกเหลืองๆเหมือนหนอง และมีกลิ่นเค็มเหม็นมาก วันที่13 ทั้งแสบทั้งเจ็บภายนอก แคมที่เคยแดงมีตุ่มขึ้นคล้ายๆเริม 2 เม็ด และมีตกขาวคล้ายหนองมากขึ้นกว่าเดิม วันที่14 แสบมากๆเลยไปหาหมอทั่วไป เพราะหมอเฉพาะทางหยุดสงกรานต์ ตอนไปหาหมอยังไม่มีเลือดค่ะ หมอให้ยา Ambufen 400 mg กับ Ciproxyl 500mg มา ละทีนี้กลับมาถึงบ้าน เลือดออกนิดหน่อย พออาบน้ำเสร็จ เลือดเยอะมากแบบประจำเดือนเลยค่ะ เลยใส่ผ้าอนามัยไว้ ไม่แน่ใจว่าเป็นผลค้างเคียงจากยาคุมฉุกเฉินหรือว่าเป็นเพราะปัสสาวะแสบขัด เหมือนเลือดจะออกจากช่องคลอดนะคะ วันที่15 มีเลือดมาเยอะมาก ปวดหลัง เหมือนประจำเดือนมาเลย และมีสีเหลืองๆคล้ายหนองปนมาด้วยค่ะ ควรทำยังไงดีคะ

    หนูกังวลมากๆ เรื่องของ น่าจะเป็นเริมที่แคม และ เลือดมันออก มันทำความสะอาดยากมากค่ะ ปัสสาวะก็แสบมาก กลัวจะติดเชื้อซ้ำซ้อนค่ะ หนูควรไปหาหมออีกครั้งมั้ยคะ หรือลองทานยาให้หมดก่อนดี หมอเฉพาะทางมาวันที่18 กันหมดเลยค่ะ ช่วยหนูด้วยนะคะ เครียดมากๆ แล้วหนูจะท้องมั้ยคะ ในเมื่อเลือดออกมาแล้ว

     

    สวัสดีค่ะ คุณ knxyz,

                         หากมีเพศสัมพันธ์โดยการแค่ถูอวัยวะเพศกันภายนอก อีกทั้งมีการใส่ถุงยางอนามัย และไม่ได้มีการสอดใส่อวัยวะเพศชายเข้าสู่ช่องคลอด โอกาสที่จะตั้งครรภ์ก็ไม่มีค่ะ ดังนั้น ก็ไม่จำเป็นต้องทานยาคุมฉุกเฉินไป แต่หากได้ทานไปในวันที่ 8 เม.ย. แล้ววันที่ 15 เม.ย. ได้มีเลือดออกมา เลือดดังกล่าวก็น่าจะเกิดจากผลของยาคุมฉุกเฉินได้ค่ะ ไม่ได้อันตรายอะไร 

                          อย่างไรก็ตาม การเกิดรอยแดงบริเวณแคม ร่วมกับมีอาการแสบ มีตกขาวเหมือนหนอง มีตุ่มขึ้นที่อวัยวะเพศภายนอก แสดงว่าน่าจะมีการติดเชื้อเกิดขึ้น โดยน่าจะเป็นเริมมากกว่าหนองใน เพราะไม่ได้มีการสอดใส่อวัยวะเพศ ดังนั้น ยาที่ได้รับจากแพทย์  คือ Ambufen 400 mg กับ Ciproxyl 500mg ซึ่งเป็นยาแก้ปวด และยาฆ่าเชื้อ ที่แพทย์น่าจะจ่ายให้เพื่อรักษาอาการติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ จึงไม่อาจรักษาอาการที่เป็นอยู่ได้ แนะนำควรกลับไปพบแพทย์เพื่อให้ตรวจรอยโรคที่อวัยวะเพศว่าใช่เริมหรือไม่ หรือไปพบสูติ-นรีแพทย์ค่ะ เพราะหากเป็นเริม ก็ควรทานยาต้านไวรัสเริม จึงจะช่วยให้อาการหายเร็วขึ้นได้ค่ะ หรือหากแพทย์ไม่อยู่ อาจปรึกษาเภสัชกรเพื่อรับยาต้านไวรัสเริมทานค่ะ 

                         อย่างไรก็ตาม หากมีการสอดใส่อวัยวะเพศ อาจเป็นหนองในได้ ซึ่งต้องรักษาด้วยการฉีดยาปฏิชีวนะ ในกรณีนี้ ควรต้องไปพบสูติ-นรีแพทย์เพื่อรักษาค่ะ 

                        ทั้งนี้ ในระหว่างนี้ ควรงดการมีเพศสัมพันธ์ไปก่อนชั่วคราวด้วย และควรดื่มน้ำเปล่ามากๆ หากฝ่ายชายมีอาการผิดปกติร่วมด้วย ก็ควรไปรักษาพร้อมกันค่ะ

                        ส่วนเรื่องการตั้งครรภ์นั้น ไม่น่ามีดังกล่าวไปตอนต้น แต่หากกังวล ก็อาจลองตรวจหาการตั้งครรภ์ดูก็ได้ค่ะ โดยควรตรวจหลังจากที่มีเพศสัมพันธ์ไปแล้ว 2 สัปดาห์ค่ะ