ถามแพทย์

  • ปัสสาวะแสบขัด ตรงปลายอวัยวะเพศมีสีช้ำๆและมีคราบสีขาวติดอยู่ที่อวัยวะเพศ เป็นอาการอะไร

  •  Pengthong Soukhaphoutthavong
    สมาชิก
    สวัสดีครับ พอดีผมไปมีเพศสัมพันธ์มาโดยไม่ได้ป้องกันอะไร แล้วหลังจากนั้น4-5วันก็รู้สึกว่าปัสสาวะแสบขัด, รู้สึกว่ามีก้อนอะไรอยู่ที่บริเวณขาหนีบ, ปลายอวัยวะเพศมีสีช้ำๆ, มีหนองไหลออกมาจากอวัยวะเพศและมีกลิ่นเหม็นมาก ผมก็เลยคิดว่าผมเป็นหนองในแน่ๆ ก็เลยไปชื้อยาแก้หนองในตามร้านทั่วไป ยาเป็นแบบมี2แคปชูลกินวันละ1แคปชูลที่เดี่ยว5เม็ดให้กินแค่2วัน หลังจากกินยาหมดผมก็รู้สึกว่าอาการดีขื้น หนองก็ไม่ไหลไม่มีกลิ่นเหม็นแล้ว แต่ก็ยังรู้สึกว่ายังไม่หายขาดเพราะว่าผมยังปัสสาวะแสบขัดอยู่,ยังรู้สึกว่ามีก้อนอะไรอยู่ที่บริเวณขาหนีบอยู่, มีสีช้ำๆตรงปลายอวัยวะเพศอยู่แล้วมาดูอีกที่ก็มีคราบสีขาวติดอยู่ที่อวัยวะเพศด้วย ผมเลยอยากรู้ว่าผมเป็นอะไรหรอครับแล้วจะรักษายังไงหรอครับ
    Pengthong Soukhaphoutthavong  พญ.นรมน
    แพทย์

    สวัสดีค่ะคุณ Pengthong Soukhaphoutthavong

    อาการปัสสาวะแสบขัดและเป็นหนองอาจเกิดจาก

    -ติดโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์เช่น หนองในแท้ หนองในเทียม หรือเชื้อแบคทีเรียชนิดอื่นๆ

    -มีการบาดเจ็บในท่อปัสสาวะหลังเกิดอุบัติเหตุ การกระแทก หรือการใส่สายสวนปัสสาวะ

    -กระเพาะปัสสาวะอักเสบ

    -กรวยไตอักเสบ อาการและสาเหตุคล้ายกระเพาะปัสสาวะอักเสบ แต่มักมีไข้ หนาวสั่นร่วมด้วย

    -นิ่วในทางเดินปัสสาวะ อาจมีปัสสาวะเป็นเลือด ปวดท้องร้าวลงขาได้

    การให้ได้การวินิจฉัยที่แน่นอน จำเป็นต้องพบแพทย์เพื่อตรวจร่างกายและตรวจคัดกรองโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์จากในปัสสาวะหรือในเลือดร่วมด้วย

    หนองในแท้คือโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ชนิดหนึ่งเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย จะมีอาการบริเวณอวัยวะเพศเช่นมีปัสสาวะแสบขัดหรือเป็นหนอง มีแผลที่อวัยวะเพศ อาการจะปรากฎหลังจากได้รับเชื้อหรือหลังจากมีเพศสัมพันธ์ประมาณ 2-10 วัน 

    การรักษาโรคหนองในแท้ คือ การฉีดยาปฏิชีวนะ ceftriaxone 250 มิลลิกรัม เข้ากล้าม 1 เข็ม ร่วมกับทานยา azithromycin 1 กรัม 1 ครั้ง หากกินแต่ยา azithromycin จะไม่สามารถฆ่าเชื้อให้หายขาดได้ค่ะ แม้ว่าอาการจะดีขึ้น แต่อาจผลข้างเคียงตามมาภายหลัง เช่น อัณฑะอักเสบ ต่อมลูกหมากอักเสบ และกลายเป็นหมันตามมาได้ ดังนั้นแนะนำให้รีบไปพบแพทย์เพื่อให้ได้การรักษาที่ถูกต้องค่ะ

    แนะนำมีเพศสัมพันธ์แบบป้องกันด้วยถุงยางอนามัย และควรพาผู้ที่เรามีเพศสัมพันธ์ด้วยไปรักษา ไม่เช่นนั้นเชื้อก็ติดกันไปติดกันมา ไม่หายขาดซักที