ถามแพทย์

  • ปวดแสบปวดร้อนที่ก้นก่อนและหลังมีประจำเดือน ต่อมามีตุ่มแดงและคันขึ้น เป็นๆหายๆ เกิดจากอะไร

  •  NuSSy
    สมาชิก
    ก่อนเป็นประจำเดือน และหลังเป็นประจำเดือน จะมีอาการปวดแสบปวดร้อนที่ก้น ผ่านไป 2วัน เริ่มมีตุ่มแดง และคัน คะ เกิดจากสาเหตุอะไรคะ และเป็นที่เดิม จะทิ้งรอยดำไว้ทุกครั้งคะ ทายาเริม และ ตาเนสเท็น ระงับไว้ตลอดคะ แล้วมัน ก็หายไปเองคะ
    NuSSy  พญ.นรมน
    แพทย์

    สวัสดีค่ะคุณ NuSSy

    การวินิจฉัยที่เป็นไปได้
    1.ผื่นผิวหนังอักเสบเฉียบพลัน
    2.งูสวัด
    3.เริม
    4.เชื้อราที่ผิวหนัง
     
    การแยกโรคต้องอาศัยการเห็นรอยโรคจริงร่วมด้วยค่ะ ถ้ามีตุ่มแดงคัน ปวดแสบ ปวดร้อนอาจคล้ายกับผื่นผิวหนังอักเสบหรืองูสวัดมากที่สุด แต่ถ้าเป็นๆหายๆร่วมด้วยอาจจะเหมือนผื่นผิวหนังอักเสบที่เป็นเรื้อรังได้ โรคผิวหนังส่วนใหญ่ไม่มีความเกี่ยวข้องกับประจำเดือนค่ะ
     
    การดูแลตัวเองเบื้องต้น ไม่ไปแกะเกาบริเวณที่เป็นตุ่ม เพราะอาจติดเชื้อและเป็นลุกลาม รับประทานยาแก้แพ้กลุ่มต้านฮิสตามีนเพื่อลดอาการคัน ยังไม่แนะนำเอายาอะไรไปทาเพราะยังไม่ทราบการวินิจฉัย
     
    ควรไปพบแพทย์ผิวหนังค่ะ เพื่อให้ได้การวินิจฉัยและการรักษาที่ถูกต้องที่สุด ถ้าเป็นผื่นผิวหนังอักเสบจะใช้ยาทาสเตียรอยด์ แต่ถ้าเป็นงูสวัดหรือเริมต้องใช้ยาฆ่าเชื้อไวรัส และห้ามทาสเตียรอยด์ ถ้าขูดไปดูแล้วเป็นเชื้อราก็ต้องใช้ยาฆ่าเชื้อราค่ะ