ถามแพทย์

  • มีอาการปวดหูขวา มีน้ำหนองไหล มีกลิ่นเหม็น หูอื้อ ควรทำอย่างไร หายเองได้ไหม

  •  Pop Patika
    สมาชิก
    มีอาการปวดหูค่ะ ปวดแปลบๆข้างในหูข้างขวา มีน้ำหนองสีเหลืองปนเขียวนิดหน่อย ก่อนหน้านี้มีเลือดนิดหน่อยด้วยค่ะ แต่ตอนนี้ไม่มีแล้ว น้ำหนองมีกลิ่นเหม็น รู้สึกเหมือนมีอะไรอยู่ในหู หูอื้อนิดหน่อยค่ะ การได้ยินลดลงเล็กน้อย จากที่ศึกษาเองจากการอ่านในอินเตอร์เน็ต คล้ายอาการแก้วหูทะลุ เพราะปั่นหูบ่อย เบื้องต้นควรปฎิบัติอย่างไรคะ ห้ามทำห้ามกินอะไรหรือเปล่า มันสามารถหายไปเองโดยไม่ไปพบแพทย์ได้ไหมคะ

    สวัสดีค่ะ คุณ Pop Patika,

                     อาการปวดในหู และมีน้ำหนองสีเหลืองปนเขียวและปนเลือดออกมา ร่วมกับอาการหูอื้อ น่าจะเกิดจากสบติดเชื้อของรูหูชั้นนอก ซึ่งมักเกิดภายหลังการแคะหู หรือหลังจากไปว่ายน้ำ เล่นน้ำ อาการคือจะปวดในรูหู กดเจ็บบริเวณหน้าหู เมื่อดึงใบหูหรือโยกใบหูจะเจ็บมากขึ้น มีหูอื้อ มีน้ำเหลืองไหลออกมา รูหูบวมแดง เป็นต้น

                      นอกจากนี้ อาจเกิดจากมีหูชั้นกลางอักเสบติดเชื้อเฉียบพลัน แต่อาการคือจะปวดหูมาก มีไข้ การได้ยินเสียงลดลง หูอื้อ หลังจากนั้นอาการปวดและไข้จะลดลง แล้วตามด้วยการมีหนองไหลออกมาจากหู ซึ่งการมีหูชั้นกลางอักเสบก็จะพบการมีเยื่อแก้วหูทะลุร่วมด้วย

                      หากเป็นหูชั้นนอกอักเสบ การรักษาคือการทานยาปฏิชีวนะ โดยทานนาน 7-14 วัน หากมีหนองมาก แพทย์จะใช้เครื่องมือดูดระบายเอาหนองออก นอกจากนี้ควรพยายามอย่าให้น้ำเข้าหู อาจใช้สำลีอุดรูหูไว้ในขณะอาบน้ำ และไม่ควรไปว่ายน้ำหรือทำกิจกรรมทางน้ำจนกว่าจะหาย

                      หากเป็นหูชั้นกลางอักเสบ การรักษาคือการทานยาปฏิชีวนะเช่นกัน โดยทานนาน 10-14 วัน แต่หากเป็นรุนแรง แพทย์ก็จะรักษาโดยการเจาะเยื่อแก้วหูร่วมด้วย

                      ดังนั้น หากยังคงมีอาการปวดในรูหู และมีหนองไหลจากรูหู  ก็ควรไปพบแพทย์เฉพาะทางหู-คอ-จมูกเพื่อตรวจและรับการรักษาค่ะ