ถามแพทย์

  • 2 วันก่อน มีปวดท้อง ปวดตามตัว มีไข้ วันต่อมาไข้หาย มีท้องเสีย วันนี้ถ่ายออกเป็นเมือก นิดเดียว ต้องพบแพทย์ไหม

  •  Jdxi82
    สมาชิก
    เมื่อ 2 วันก่อน มีอาการปวดท้องเฉียบพลันช่วงบ่ายๆ ประมาณ 1 ทุ่มเริ่มหนาว ปวดเนื้อปวดตัว ปวดหัว อาการเหมือนจะไข้ เลยไปหาซื้อนมเปรี้ยวกับยาแกไข้กิน หลังจากกินยาแก้ไข้ วันต่อมาอาการไข้หายไปหัวไม่ปวด แต่ท้องยังเสียอยู่ จนถึงวันนี้ครับ ถ่ายออกนิดเดียว เป็นเมือกครับ ไปอ่านของคนอื่นดูเห็นคุณหมอตอบว่า เป็นลำไส้เฉียบพลัน ไม่รู้ว่าเป็นแบบนั้นหรือเปล่าครับ อยากได้วิธีรักษาครับ แล้วต้องพบแพทย์ไหมครับ เพราะเห็นบอกถ้ามีไข้แล้วถ่ายเป็นเมือกควรพบแพทย์ แต่ตอนนี้ไม่ได้เป็นไข้ครับ

    สวัสดีค่ะ คุณ Jdxi82,

                      อาการปวดท้อง  ปวดเมื่อยตัว มีไข้ และมีถ่ายอุจจาระเหลวมา 2 วันก็น่าจะเกิดจากอาหารเป็นพิษ หรือ ลำไส้อักเสบแบบเฉียบพลับ ซึ่งสาเหตุส่วนใหญ่เกิดจากการติดเชื้อ ที่มาจากการกินอาหารหรือดื่มน้ำที่ปนเปื้อนเชื้อโรคหรือพิษของเชื้อโรค หรือจากมือหรือภาชนะที่ใส่อาหารและน้ำดื่มไม่สะอาด

                      ในบางราย นอกจากจะมีท้องเสีย อาจมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน เบื่ออาหาร อ่อนเพลีย เหนื่อย เวียนหัว ร่วมด้วย

                      หากลักษณะของอุจจาระเป็นเมือก หรือมูก และมีอาการปวดบิดท้องรวมถึงมีไข้ ก็น่าจะเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียมากกว่าไวรัส ดังนั้น ก็ควรไปพบแพทย์หรือปรึกษาเภสัชกรเพื่อรับยาปฎิชีวนะฆ่าเชื้อทาน เช่น นอร์ฟลอกซาซิน (norfloxacin) เพื่อให้อาการหายเร็วขึ้นค่ะ แต่ทั้งนี้ หากอาการไข้หายไปแล้ว และถ่ายปริมาณน้อยลง และจำนวนครั้งลดลงแล้ว ก็อาจไม่ต้องทานยาก็ได้ค่ะ อาการน่าจะหายภายในไม่กี่วันได้เอง

                       ในเบื้องต้น แม้จะถ่ายน้อยลง ก็ยังควรพยายามดื่มน้ำเปล่าให้มาก และดื่มน้ำเกลือแร่ร่วมด้วย สำหรับอาหาร ควรทานอาหารอ่อน อาหารที่ย่อยง่าย รสจืด เช่น ข้าวต้ม โจ๊ก แกงจืด หลีกเลี่ยงอาหารที่มีไขมันสูง เช่น ของทอด ของผัด และเนื้อสัตว์ เพราะย่อยยาก อาจยิ่งทำให้ถ่ายมากขึ้น หลีกเลี่ยงอาหารรสจัด และทานอาหารที่ปรุงสุกใหม่ค่ะ