ถามแพทย์

  • ปวดข้อมือเรื้อรัง เป็นมา 2 เดือนแล้ว ไปฉีดยามาเมื่อ 5 วันก่อนก็ไม่หาย ควรทำอย่างไร

  •  Nontawat Kombost
    สมาชิก

    ไปหาหมอมาแล้ว เขาบอกว่าผมเป็นเอ็นอักเสบแล้วให้ยามาทาน ทานได้ประมาณ 2 เดือน แต่ก็ไม่หายสักที ผมเลยเปลี่ยน รพ มาอีกที่หมอเขาแนะนำให้รักษาโดยการฉีดยาประมาณ 3 วันหาย ผมก็เลยตัดสินใจฉีด แต่ผ่านมาแล้ว 5 วันผมยังปวดอยู่เลยครับ ผมควรรอให้นานกว่านี้ หรือไป X-Ray ดูดีครับ

    ปล.

    ไม่ได้เกิดอุบัติเหตุอะไรนะครับ อยู่ดี ๆ ก็มีอาการปวดขึ้นมา จะปวดมาก ๆ ตอนนี้งอมือกับดันมือขึ้นครับ

     

    ขอขอบคุณล่วงหน้านะครับ

    Nontawat Kombost  พญ.นรมน
    แพทย์

     สวัสดีค่ะคุณ Nontawat Kombost

    อาการปวดข้อมือเรื้อรัง อาจมีสาเหตุมาจาก ปวดจากกล้ามเนื้อบริเวณข้อมืออักเสบหรือตึงตัว ซึ่งอาจจะสัมพันธ์การใช้งานหรือการกดทับเป็นเวลานาน ปวดจากเส้นเอ็นรอบข้อมืออักเสบจากการใช้งาน ปวดจากปลายเส้นประสาทอักเสบซึ่งอาจทำให้ปวดแบบจี๊ดๆเจ็บแปล๊บได้ ปวดจากข้ออักเสบ เช่นข้ออักเสบรูมาตอยด์ ปวดจากข้อติดเชื้อแต่มักมีอาการปวดบวม แดงร้อนที่ข้อร่วมด้วยได้มากและมักไม่ค่อยเป็นเรื้อรังมาเรื่อยๆดังกล่าวมา

    หรือถ้าปวดจากสาเหตุในกระดูก มักจะมีอุบัติเหตุตรงกระดูกนำมาก่อน เช่นการกระแทก การล้มแล้วเอามือลงยัน ถ้าไม่มีอุบัติเหตุอะไรชัดเจนที่จำได้ก็นึกถึงสาเหตุนี้ได้น้อย

    ในเบื้องต้น ให้พักการใช้งานบริเวณดังกล่าว เว้นการยกของหนักๆไปก่อน รับประทานยาแก้ปวดเพื่อช่วยบรรเทาอาการได้หากปวดมาก

    แต่หากยังปวดมาก หลังฉีดยา กินยาแก้ปวด หรือพักการใช้งานแล้ว อากรก็ยังไม่ดีขึ้น ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจเพิ่มเติม แจ้งแพทย์ได้ดังที่เขียนมาว่าปวดเรื้อรัง เคยรักษาอะไรมาแล้วบ้างไม่ดีขึ้น หากแพทย์ตรวจแล้วมีข้อบ่งชี้ อาจส่งตรวจเพิ่มเติมเช่นเอ็กซเรย์ดังกล่าวมา หรือส่งต่อพบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญต่อไป