ถามแพทย์

  • ประจำเดือนมา 7-12 ก.ค. และมาอีกวันที่ 28 ก.ค. และวันที่ 10 ส.ค. ก็มีเลือดออกมาอีก มีคำแนะนำอะไรไหม

  •  Pimmypooh Pimchanok
    สมาชิก

    สวัสดีค่ะคุณหมอ พอดีเดือนนี้หนูเป็นประจำเดือนสองครั้งค่ะ คือช่วงวันที่7-12 กรกฎาคม2561 และช่วง 28กรกฎา-2 สิงหา ก่อนหน้านี้ ประมาณ 27-28 มิถุนา หนูมีเลือดออกเป็นสีดำๆ น่าจะเลือดค้าง เป็นแค่สองวันแล้วหายไป แล้วก้มาเป็นแบบมาเป็นประจำเดือนสีแดงๆคือ7-12 กรกฎา มาอีกรอบ ก้ช่วง28กรกฎา-2สิงหา จริงๆหนูจะมาตามปกติของทุกเดือนคือช่วงวันที่ 25ไรแบบนี้ค่ะ แต่เดือนนี้มาสองวันคืองงมาก แล้วช่วงหลักๆหนูออกกำลังกายกินดี มีน้ำมีนวล เครียดบ้างกับการเรียน มันปกติไหมค่ะหมอ #ขอโทษนะคะ ในคำพูดที่ไม่สุภาพ  

    คุณหมอค่ะ ตอนนี้ประจำเดือนมาอีกแล้วต่ะวันนี้เลยวันที่ 10 สิงหา แต่หนูกินยาเลื่อนประจำเดือนไปเม็ดหนึ่งแล้ว ก้ะว่าจะให้มาช่วงวันที่20สิงหาค่ะ  มีคำแนะนำอะไรไหมค่ะตอนนี้กังวลมาก กินยาตัวไหนหรือปลาอยให้เป็นแบบนี้ไม่ต้องกินยาเลื่อนต่อนับจากวันนี้ 

     

     สวัสดีค่ะ คุณ Pimmypooh Pimchanok,

                            หากประจำเดือนมาในวันที่ 7 ก.ค. โดยมานาน 6 วัน และมาอีกครั้งในวันที่ 28 ก.ค. ซึ่งห่างจากรอบประจำเดือนที่แล้ว 21 วัน และมานาน 6 วัน เลือดดังกล่าวก็ถือเป็นประจำเดือนที่ปกติค่ะ ทั้งนี้ระยะห่างระหว่างรอบประจำเดือนที่ปกติคือ 21-35 วัน ซึ่งไม่จำเป็นต้องเท่ากันในทุกรอบเดือน ส่วนระยะเวลาที่เลือดออกคือ 2-7 วัน ซึ่งไม่จำเป็นต้องเท่ากันในทุกรอบเช่นกัน หากไม่มีอาการปวดท้องน้อยรุนแรง เลือดไม่มีปริมาณมากเกินไป ก็ถือว่าเป็นประจำเดือนที่ปกติค่ะ

                           สำหรับเลือดที่ออกมาในวันที่ 10  ส.ค. ซึ่งห่างจากวันที่ 28 ก.ค. 13 วัน แนะนำให้สังเกตเลือดที่ออกไปก่อน หากมีปริมาณเพียงเล็กน้อย และออกแค่ 1 วัน เลือดดังกล่าวอจเป็นเลือดออกช่วงไข่ตกได้ ซึ่งไม่จำเป็นต้องทำอะไร แต่หากเลือดที่ออกมีปริมาณมากหรือออกนานเกิน 2 วัน หรือมีปวดท้องน้อยร่วมด้วย ถือเป็นเลือดออกที่ผิดปกติ ซึ่งอาจเกิดจาก 

                        - หากมีเพศสัมพันธ์ อาจเกิดจากภาวะแทรกซ้อนจากการตั้งครรภ์ได้ เช่น แท้งคุกคาม 

                        - มีการอักเสบติดเชื้อในโพรงมดลูก แต่จะมีอาการตกขาวที่ผิดปกติ และปวดท้องน้อยร่วมด้วย  รวมถึงอาการเจ็บท้องน้อยเวลามีเพศสัมพันธ์ ปัสสาวะผิดปกติ มีไข้

                       - ผลจากการใช้ยาฮอร์โมนอื่นๆ เช่น ยาสตรี สมุนไพร อาหารเสริมต่างๆ รวมถึงยาบางอย่าง เช่น ยาป้องกันการแข็งตัวของเลือด ยาต้านเศร้า เป็นต้น 

                        - มีความผิดปกติที่มดลูกและรังไข่ เช่น เนื้องอกมดลูก มีติ่งเนื้อในโพรงมดลูก เยื่อบุโพรงมดลูกหนาตัวผิดปกติ มะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูก มะเร็งรังไข่ มะเร็งปากมดลูก เป็นต้น แต่มักจะพบในหญิงวัยกลางคนขึ้นไป

                         แนะนำว่าควรหยุดทานยาเลื่อนประจำเดือนไปก่อน เพราะหากทานอาจยิ่งทำให้ประจำเดือนมาผิดปกติ หรือมีเลือดออกผิดปกติได้

                         และหากหลังจากนี้ ยังคงมีเลือดออกมา หรือมีเลือดออกปริมาณมาก หรือออกนานเกิน 2 วัน หรือมีปวดท้องน้อยร่วมด้วย ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุค่ะ