ถามแพทย์

  • เลิกกินยาคุมแล้วมีประจำเดือนมา หลังจากนั้น ประจำเดือนไม่มา ตรวจแล้วไม่ท้อง เป็นเพราะอะไร

  • สัวสดีค่ะ คือมีเรื่องสอบถามค่ะ กินยาคุมมาได้7ปีะ และคือเลิกกินคุมมาได้2-3เดือนแล้วมามีเพศสัมพันเมื่อวันที่ 29 กค 63ค่ะ แต่ปล่อยนอกเสดแล้วก้อกินยาคุมฉุกเฉิน พอได้2-3วันก้อมากินยาคุมค่ะแบบ28เม็ด ปจดก้อมาวันที่ 24 สค 63 มาได้7วันค่ะและก้อเลิกกินยาคุมคะหลังจากนั้นปจดก้อไม่มา พอเดือนต.ค63 วันที่15 ได้ซื้อที่ตรวจมามันขึ้น1ขีดค่ะ ถึงตอนนี้ปจดไม่มาสักที อยากถามว่า 1.เลือดที่มา7วันเมื่อวันที่24 สค เป็นปจดใช่มัยค่ะ 2.แบบนี้มีโอกาสท้องรึเป่าค่ะ 3เป็นเพราะอะไรตอนนี้ปจดไม่มาสักที หนูสูง150 นน 61
    ตอบหน่อยอยากรู้จริงๆๆๆ

    สวัสดีค่ะ คุณ แล้วแต่ ไม่รุ้สิครัช,

                           หากเลิกทานยาคุมกำเนิดมา 2-3 เดือนแล้ว ฤทธิ์ในการป้องกันการตั้งครรภ์ก็ย่อมหมดลงไปแล้ว และเมื่อมีเพศสัมพันธ์ ก็จะมีโอกาสตั้งครรภ์ได้ แต่หากได้ทานยาคุมฉุกเฉินไป ยาคุมฉุกเฉินก็จะช่วยป้องกันการตั้งครรภ์ได้ประมาณหนึ่งค่ะ

                            หลังจากนั้น หากได้เริ่มทานยาคุมกำเนิดต่อ และเมื่อทานยาคุมจนเกือบหมดแผง ได้มีประจำเดือนมา (วันที่ 24 ส.ค.) ก็แสดงว่าไม่ได้มีการตั้งครรภ์เกิดขึ้นค่ะ

                             และเมื่อหยุดทานยาคุมอีกครั้ง หลังจากนั้น ไม่มีประจำเดือนมา แต่ได้ตรวจหาการตั้งครรภ์อย่างถูกต้องแล้ว ไม่พบการตั้งครรภ์ ก็แสดงว่าไม่มีการตั้งครรภ์เกิดขึ้น ดังนั้น การที่ประจำเดือนหายไปหลายเดือน อาจเกิดจาก

                            - โรคอ้วน เนื่องจากคนอ้วนมีเซลล์ไขมันจำนวนมาก ซึ่งเซลล์ไขมันสามารถสร้างฮอร์โมนเอสโตรเจนได้ในปริมาณเล็กน้อย เมื่อมีปริมาณมากเกิน จึงกระทบต่อการหลั่งฮอร์โมนเพศที่ปกติได้ ซึ่งหากมีส่วนสูง 150 เซนติเมตร แตามีน้ำหนัก 61 กิโลกรัม ก็ถือว่ามีโรคอ้วนค่ะ

                             - การผลิตฮอร์โมนของรังไข่ผิดปกติ เช่น มีภาวะมีถุงน้ำจำนวนมากในรังไข่ (PCOS) โดยผู้ที่เป็นโรคนี้มักจะมีรูปร่างอ้วน ผิวมัน มีสิว ขนดกมากกว่าผู้หญิงทั่วไป

                             - มีภาวะไทรอยด์ฮอร์โมนเป็นพิษ หรือไทรอยด์ฮอร์โมนต่ำ 

                             - มีพังผืดในโพรงมดลูก 

                             - มีเนื้องอกของต่อมใต้สมอง แต่จะมีอาการอื่น ๆ ร่วมด้วย เช่น ปวดศีรษะ มองเห็นภาพซ้อน มีน้ำนมไหล เป็นต้น

                              หากประจำเดือนยังคงไม่มา ก็ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุค่ะ หากไม่ได้มีโรคอะไร และเกิดจากการมีน้ำหนักตัวที่มาก ก็ควรพยายามลดดน้ำหนักตัวลง โดยควรปรึกษาแพทย์เพื่อการลดน้ำหนักตัวที่เหมาะสมค่ะ