ถามแพทย์

  • กินยาคุมมา 3 ปี หลังหยุดทานประจำเดือนไม่มา ตรวจแล้วไม่ท้อง เกิดจากอะไร

  •  Yui Thawin
    สมาชิก
    ก่อนหน้านี้กินยาคุมกำเนิดมาตลอด3ปี แต่ที่ผ่านมาไม่ค่อยได้อยู่กับแฟนจึงเลิกทานยาคุมแล้วใช้วิธีใส่ถุงยางอนามัย ประจำเดือนมาปกติ ตั้งแต่เดือน พ.ย-มี.ค แต่เดือนเมษายนที่ผ่านมาประจำเดือนไม่มา ทุกทีประจำเดือนจะมาวันที่ 6-8 ของทุกเดือน และวันที่10เม.ย ได้ไปทำการตรวจสุขภาพที่โรงพยาบาลเพื่อจะเดินทางไปทำงานต่างประเทศมีการตรวจปัสสาวะและตรวจเลือดผลออกมาปกติ ไม่มีการตั้งครรภ์(เพราะแพทย์ไม่ได้แจ้งและทำการเอ็กซเรย์ปอดตามปกติ) หลังจากตรวจโรคที่ร.พ วันที่13 ได้ซื้อที่ตรวจครรภ์มาตรวจอีกครั้งก็ขึ้นขีดเดียว ไปปรึกษาเภสัชแนะนำให้ซื้อยาคุมยี่ห้อเดิมที่เคยใช้มากินให้ครบ7วัน (เพราะอาจจะเป็นเพราะกินยาคุมมานานแล้วหยุดยา) แล้วลองหยุดยาดูว่าประจำเดือนจะมาปกติหรือไม่ จึงกินยาคุมตั้งแต่วันที่ 17-23 จนครบ7วันแล้ว และหยุดกินยาตั้งแต่วันที่ 24 จนวันนี้วันที่ 27แล้วประจำเดือนก็ยังไม่มา อยากทราบว่าที่เป็นแบบนี้เป็นเพราะฮอร์โมนในร่างการผิดปกติหรือเป็นอย่างอื่นค่ะ เครียดมากเลยค่ะ
    Yui Thawin  Yui Thawin
    สมาชิก
    ลืมแจ้งค่ะ มีอาการปวดท้องน้อยเหมือนจะมีประจำเดือนบ่อยๆค่ะ และไม่มีอาการใดๆที่จะบ่งบอกว่าแพ้ท้องหรือตั้งครรภ์เลยค่ะ

     สวัสดีค่ะ คุณ Yui Thawin

    การขาดประจำเดือน สามารถเกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น การตั้งครรภ์, ภาวะเครียด, การเจ็บป่วยทางร่างกายต่างๆ, ภาวะไข่ไม่ตก, การมีถุงน้ำรังไข่หรือกลุ่มอาการของพีซีโอ, การทำงานของต่อมไทรอยด์ผิดปกติ, พยาธิสภาพที่ต่อมใต้สมอง ผลข้างเคียงของยาคุมกำเนิด เป็นต้น

    การตรวจสุขภาพเพื่อเตรียมไปทำงานต่างประเทศ อาจจะไม่ได้ลงรายละเอียดอาการที่เป็นนะคะ ดังนั้นแนะนำคุณ Yui Thawin ไปพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุอีกทีนะคะ