ถามแพทย์

  • มีเลือดคล้ายประจำเดือนสีน้ำตาลคล้ำติดต่อกัน 5 วัน เกิดหลังการใช้ยาคุมฉุกเฉินในขณะที่เว้นช่วงการกินยาคุมกำเนิด สาเหตุเกิดจากอะไร

  •  bb_nich
    สมาชิก
    สวัสดีค่ะพอดีมีคำถามค่ะ คือปกติกินยาคุมแบบ 21 เม็ดอยู่ค่ะ โดยเริ่มวันแรกคือวันที่ 8 พ.ค. แล้ววันที่ 19 พ.ค. กินซ้ำไป 2 เม็ด ทำให้ยาคุมหมดก่อนกำหนดในวันที่ 27 พ.ค. ค่ะ แต่ก็ทำการหยุดยาให้ครบ 7 วัน หลังจากนั้นมี sex กับแฟนโดยไม่ได้ใส่ถุงยางในวันที่ 31 พ.ค. ซึ่งนับเป็นวันที่ 4 ของการหยุดยา ไม่ได้หลั่งข้างในค่ะ แต่ไม่มั่นใจเลยกินยาคุมฉุกเฉินชนิดแบบ 1 เม็ดไปด้วยค่ะ หลังจากที่มีsexไปประมาณ 1 ชั่วโมงค่ะ วัน 1 มิ.ย. มีประจำเดือนมาลักษณะสีน้ำตาลคล้ำปริมาณไม่มากไม่น้อยติดต่อกันมา 5 วันโดยไม่มีเลือดสีแดงเลยค่ะแต่กลิ่นคิดว่าน่าจะเป็นกลิ่นประจำเดือนค่ะ ระหว่างนั้นก็มีอาการคัดตึงเต้านม ปวดหน่วงท้องน้อยเล็กน้อยค่ะ ไม่ทราบว่าอาการเหล่านี้ผิดปกติมากมั้ยคะ หรือเสี่ยงตั้งครรภ์มั้ยคะ ขอบคุณค่ะ
    bb_nich  พญ.นรมน
    แพทย์

     สวัสดีค่ะคุณ bb_nich

    การใช้ยาคุมกำเนิดแบบ 21 เม็ดนั้น ถ้าได้กินติดต่อกันทุกวันจนยาหมดแผง ยามีประสิทธิภาพสูงมากๆในการป้องกันการตั้งครรภ์ โอกาสตั้งครรภ์น้อยกว่า 1% 

    และถึงแม้มีการกินยาไป 2 เม็ดในวันเดียวกัน แต่กินครบทุกเม็ดนั้น โอกาสตั้งครรภ์ก็ยังมีได้น้อยมาก แต่การกินยาไป 2 เม็ดในคราวเดียว อาจเพิ่มโอกาสการเกิดผลข้างเคียงต่างๆเช่นคลื่นไส้ อาเจียน เลือดออกผิดปกติได้

    โดยช่วงเว้นยา 7 วัน ก็มีโอกาสจะตั้งครรภ์น้อย เพราะในรอบเดือนที่มีการใช้ยาคุมก็จะไม่มีไข่ตก จริงๆแล้ว ถ้ามีเพศสัมพันธ์ในช่วงเว้นยา 7 วัน ก็ไม่น่ามีความจำเป็นต้องใช้ยาคุมฉุกเฉินแต่อย่างใด โดยยาคุมฉุกเฉฺินอาจมีผลทำให้มีเลือดออกผิดปกติทางช่องคลอดตามมาได้ภายในประมาณ 1-2 สัปดาห์ เลือดที่ออกผิดปกติจึงอาจเป็นผลจากยาคุมฉุกเฉิน ซึ่งไม่ได้บ่งบอกว่าตั้งครรภ์หรือไม่ตั้งครรภ์

    หลังจากนี้ถ้าไม่สบายใจ แม้โอกาสตั้งครรภ์จะน้อย สามารถซื้อชุดตรวจครรภ์ทางปัสสาวะมาตรวจได้เองเบื้องต้นให้ผลบวกได้ตั้งแต่ 10-14 วันหลังปฏิสนธิ อาการอื่นๆดังกล่าวมาไม่ได้บ่งบอกว่าตั้งครรภ์