ถามแพทย์

  • ประจำเดือนมา 2 ครั้งใน1เดือน เกิดจากอะไร เลิกฉีดยาคุมได้ 2 ปี มีเพศสัมพันธ์หลั่งในตลอด

  •  Nan Nan
    สมาชิก
    สวัสดีค่ะเดือนนี้ฉันเป็นเป็นเม็นก่อนกำหมดและเป็น2ครั้งปกติจะมาวันที่6-9แต่ครั้งนี้มาวันที่3-5ก่อนเป็นก็อาการปกติค่ะเจ็บน่าอกปวดท้องปวดหลัง ฉันมีอะไรกับแฟนวีนที่10ครั้งแรกครั้งที่2-3ปกติค่ะแฟนหลั่งในตลอดค่ะแต่ครั้งต่อมาจะมีเลือดออกมาด้วยแต่ไม่มาก ฉันเคยฉีดยาคุมมาแระมาน2ปีเลิกฉีดมาได้เกือบ2ปีค่ะ ไม่เคยกินยาคุมกำเนิดวันที่27เม็นมาอีกครั้งช่วงประมานเกือบเที่ยงฉันตื่นนอนรู้สึกเหมือนมีอะไรไหลออกมาเลยเข้าไปถอดกางเกงในห้องน้ำเห็นเป็นเลือดติดกางเกงในฉันเลยลองนั่งลงที่พื้นพอนั่งลงก็มีเลือดไหลออกมาเยอะมากเป็นสเข็มมีก้อนเลือดสีดำหรืออะไรไม่แน่ใจค่ะหลังจากนั่นฉันรู้สึกปวดท้องแต่ไม่เหมือนกับทุกครั้งที่เป็นเม็นเวียนหัวหน้ามืดและก่อนที่จะเป็นเม็นครั้งที่2ไม่มีอาการเตือนให้รู้ว่าจะเป็นเม็นรอบนี้มีเลือดออกเยอะ2วันวันที่3มีเลือดบ่นกับน้ำสีน้ำตาลตั้งแต่วันที่27มกราคมจนวันนี้วันที่2กุมภาฉันมีน้ำสีน้ำตาลและมีกลิ่นเหม็นมากๆและมีเวลามีอะไรกับแฟนจะเป็นเลือดออกมาเยอะมีก้อนๆดำบ่นออกมาด้วยแต่แค่วันเดียวก็กลับมาเป็นน้ำสีน้ำตาลเหมือนเดิม ช่วงนี้มีอาการเครียดมา3-4 กินเหล้ากินเบียร์ทุกคนพักผ่อนน้อยบางทีไม่ได้นอนเป็นวัน2วัน มาพักหลังฉันเริ่มกินยาpanadolครั้งละ6-10เม็ดติดต่อกันประมาน5-6ครั้ง

    สวัสดีค่ะ คุณ Nan Nan

    การที่มีประจำเดือนมามาก หรือมีเลือดออกกระปริดกระปรอย สามารถเกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น ภาวะแทรกซ้อนจากการตั้งครรภ์ ภาวะฮอร์โมนเพศหญิงไม่สมดุลมักพบในวัยรุ่นที่เริ่มมีประจำเดือน หรือวัยใกล้หมดประจำเดือน ผลข้างเคียงของยาคุมกำเนิด ความเครียด เนื้องอกในมดลูก มดลูกหรืออุ้งเชิงกรานอักเสบ เป็นต้น

    **เนื่องจากมีเลือดออกทางช่องคลอดที่ผิดปกติและมีกลิ่นเหม็น อาจมีมดลูกหรืออุ้งเชิงกรานอักเสบได้นะคะ แนะนำคุณ Nan Nan ควรไปพบสูตินารีแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยโรคและรับการรักษาอย่างเหมาะสมนะคะ