ถามแพทย์

  • หลังเลิกฉีดยาคุม มีประจำเดือนมากะปริดกะปรอยมา 4 เดือนแล้ว เกิดจากอะไร

  •  Nattawut Umpoo
    สมาชิก
    ประจำเดือนมากระปริบกระปอยนาน4เดือนแล้วคะ(เคยฉีดยาคุมแล้วประจำเดือนมากระปริบกระปอยแต่หมอบอกเป็นเพราะการปรับฮอร์โมนเดี้ยวจะหายเองแต่ฉีดเกือบ1ปีมาไม่หยุดรู้สึกไม่โอเคเลยดลิกฉีดหลังจากเลิกฉีดประจำเดือนมาปกติแค่1เดือนคะ หลังจากนั่นนั้นจนวันนี้4เดือนแล้วคะยังไม่มีทีท่าว่าประจำเดือนจะหมดเลยคะตั้งแต่เริ่มฉีดยาคุมมีอาการเครียดหลายเรื่องมากมาโดยตลอดไมาทราบว่าเกี่ยวไหมคะ)เป็นเพราะอะไรคะแก้ยังไงคะ ต้องรักษายังไงคะ

    สวัสดีค่ะ คุณ Nattawut Umpoo,

                      การมีเลือดออกจากช่องคลอดกะปริดกะปรอยมาตลอด 4 เดือน อาจเกิดจาก

                     1. มีการตั้งครรภ์แล้วมีภาวะแทรกซ้อนเกิดขึ้น เช่น แท้งคุกคาม เป็นต้น ทั้งนี้ เมื่อหยุดฉีดยาคุมกำเนิดแล้ว หากได้มีเพศสัมพันธ์ ก็ย่อมมีโอกาสที่จะตั้งครรภ์ได้ค่ะ 

                     2. มีมดลูกอักเสบ แต่มักมีอาการปวดท้องน้อยและตกขาวที่ผิดปกติร่วมด้วย

                      3. มีโรคที่มดลูก เช่น เนื้องอกมดลูก เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ เยื่อบุโพรงมดลูกหนาตัวผิดปกติ มะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูก มะเร็งปากมดลูก เป็นต้น

                      4. การทำงานผลิตฮอร์โมนของรังไข่ผิดปกติ 

                      5. มีโรคในระบบอื่นๆ เช่น มีภาวะเกร็ดเลือดต่ำ เกร็ดเลือดทำงานผิดปกติ ภาวะไทรอยด์ฮอร์โมนผิดปกติ เป็นต้น

                      หากหลังจากที่หยุดฉีดยาคุม ได้มีเพศสัมพันธ์ แนะนำควรลองตรวจหาการตั้งครรภ์ดูด้วยค่ะ หากตรวจไม่พบ หรือไม่ได้มีเพศสัมพันธ์ แต่เลือดยังคงไหลมาอีกเรื่อยๆ แนะนำควรไปพบสูติ-นรีแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุและรักษาให้เลือดหยุดไหล ไม่ควรปล่อยไว้ เพราะจะทำให้เกิดภาวะโลหิตจางตามมาได้ค่ะ