ประจำเดือนมา 12-15 แล้วอีก 15 วันต่อมา มีประจำเดือนอีก เพราะอะไร

สวัสดีค่ะ คุณ jnkml;,./ghkml,;.gvbkml,

                     ให้ลองนับจากวันแรกของประจำเดือนในรอบก่อน คือวันที่ 12 ส.ค. จนมาถึงวันที่เริ่มมีประจำเดือนมาใหม่ หากนับได้เกิน 21 วัน ก็จะยังถือว่ามีระยะห่างระหว่างรอบประจำเดือนที่ปกติดีค่ะ 

                      แต่หากนับได้น้อยกว่า 21 วัน เลือดดังกล่าว อาจไม่ใช่ประจำเดือน และอาจเกิดจาก

                      1. เป็นลือดออกช่วงไข่ตก หากเลือดที่ออกอยู่ในช่วงกึ่งกลางของรอบประจำเดือน คือประมาณวันที่ 13-15 นับจากวันแรกที่ประจำเดือนมา และออกเพียงแค่ 1 วัน เลือดดังกล่าวก็น่าจะเป็นเลือดออกวันไข่ตกได้

                      2. เป็นเลือดล้างหน้าเด็ก โดยจะเกิดในวันที่ 6-12 นับจากที่ได้มีเพศสัมพันธ์ไป เลือดจะมีปริมาณเพียงเล็กน้อย และออกเพียงแค่ 1 วัน

                      3. มีการอักเสบติดเชื้อในโพรงมดลูก แต่มักปวดท้องน้อยและตกขาวที่ผิดปกติร่วมด้วย 

                      4. โรคของมดลูก เช่น มีติ่งเนื้อในโพรงมดลูก เยื่อบุโพรงมดลูกหนาตัวผิดปกติ มะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูก มะเร็งปากมดลูก เป็นต้น แต่ก็จะต้องมีเลือดออกมาอีกเรื่อยๆ 

                      5. ผลจากการใช้ยาฮอร์โมนต่างๆ เช่น ยาสตรี สมุนไพร อาหารเสริมต่างๆ เป็นต้น 

                      6. การผลิตฮอร์โมนของรังไข่ผิดปกติ

                       ดังนั้น หากนับระยะห่างได้น้อยกว่า 21 วัน ก้ไม่น่าใช่ประจำเดือน แนะนำให้สังเกตอาการไปก่อน หากเลือดที่ออกมามีปริมาณไม่มาก และเป็นเพียงแค่ 1-2 วัน อาจเป็นเลือดออกช่วงไข่ตกก็ได้ แต่หากเลือดออกนานหลายวัน หรือหยุดไป แล้วมีเลือดออกมาอีกเรื่อยๆ ก็ควรลองตรวจหาการตั้งครรภ์ดูด้วย หากตรวจไม่พบ ก็ควรไปพบสูติ-แพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุค่ะ