ถามแพทย์

  • ประจำเดือนมาไม่ปกติ หลังจากหยุดทานยาคุม แต่ก่อนหน้านี้ไม่เคยมีประจำเดือนมาก่อนเลย เกิดจากอะไร

  •  nut_nuttha
    สมาชิก
    สวัสดีค่ะ ขออธิบายก่อนนะคะ คือตอนนี้อายุ21ปี แต่ไม่เคยมีประจำเดือนมาตั้งแต่เกิดเลยค่ะ จนเมื่อประมาณช่วงเดือนสิงหาคมปีที่แล้ว ได้ซื้อยาคุมมาทาน เภสัชแนะนำว่าถ้าปรับฮอร์ให้ทาน Preme28 ซึ่งหลังจากทานหมดแผง วันถัดมามีเลือดประจำเดือนไหลออกมา ซึ่งหลังจากประจำเดือนหมดก็ได้ทานยาคุมต่อ แต่เป็น Preme แบบ21เม็ด หลังจากหมดแผงประจำเดือนก็มาปกติ (ปกติประจำเดือนจะมีช่วงต้นเดือน) พอหมดแผงที่2เลยไปซื้อยี่ห้ออื่นแบบ21เม็ดมาทานก็มีประจำเดือนปกติ เลยตัดสินใจหยุดทานยาคุม พอหลังจากหยุดทาน ประจำเดือนเริ่มมาไม่ปกติค่ะ แต่ยังมีอาการปวดท้อง ปวดหลัง เหมือนตอนมีประจำเดือน เพียงแต่ไม่มีเลือดประจำเดือนไหลออกมา และเดือนที่ประจำเดือนก็มาแต่เป็นช่วงปลายเดือนค่ะ หลังจากนั้นประจำเดือนก็ไม่มาอีกเลย จนถึงปัจจุบัน (ทุกครั้งที่ประจำเดือนมา จะมาน้อยมากๆค่ะ) ซึ่งตอนนี้ทุกต้นเดือนก็จะมีอาการปวดท้องปกตินะคะแต่ไม่มีเลือดไหลออกมา
    nut_nuttha  nut_nuttha
    สมาชิก
    ส่วนตัวเป็นคนที่ฮอร์โมนชายสูงค่ะ มีขนดก หน้ามัน ไม่ทราบว่าเราควรทานยาคุมอีกไหมคะ แล้วถ้าทานเราควรทานต่อเนื่องอีกนานไหมคะ ว่าประจำเดือนจะมามาก และมาปกติ
    nut_nuttha  พญ.นรมน
    แพทย์

    สวัสดีค่ะคุณ nut_nuttha

    ไม่แน่ใจว่าหยุดยาคุมไปตั้งแต่เมื่อไร โดยหลังการหยุดใช้ยาคุมกำเนิดนั้น อาจจะยังทำให้ไม่มีการตกไข่ และไม่มีประจำเดือนมาได้ แต่ไม่ควรเกินประมาณ 3-6 เดือนหลังหยุดใช้ยา

    หากประจำเดือนมาไม่ปกติมาติดต่อกันเกิน 6 เดือนหลังหยุดยาไปแล้วนั้น ก็น่าจะเป็นความผิดปกติ ซึ่งอาจจะไม่ได้เกี่ยวกับยาคุมที่ใช้เลยก็ได้ เพราะถ้าตั้งแต่ก่อนใช้ยาคุมไม่มีประจำเดือนอยู่เดิมเลยนั้น อาจจะเกิดจาก การไม่มีมดลูกหรือรังไข่ (คือมีโครโมโซมเพศที่ผิดปกติ) ความผิดปกติของต่อมใต้สมอง โรคไทรอยด์ทำงานผิดปกติ เยื่อพรหมจรรย์ไม่เปิด ไม่มีช่องคลอด รังไข่ทำงานล้มเหลว เป็นต้น

    ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุที่แน่ชัดของการไม่เคยมีประจำเดือนมาเลยต่อไป ในระหว่างนี้ไม่ซื้อยาปรับฮอร์โมนหรือยาคุมใดๆมาใช้เอง