ถามแพทย์

  • ประจำเดือนมามากและบ่อยกว่าปกติ ประมาณ 3 เดือน ไปหาหมอ ทานยาก็หยุด หยุดทานก็มาอีกและปวดท้อง ควรทำอย่างไร

  •  12tree
    สมาชิก

    สวัสดีค่ะคุณหมอ หนูประจำเดือนมามากกว่าปกติมาประมาณ3เดือนแล้วจะมา5-6วันแล้วหยุด2วัน แล้วประจำเดือนก็มาอีก หนูได้ไปหาหมออัลตราซาวแล้วพบว่าผนังมดลูกหนาและอาจจะมีชิ้นเนื้อในปากมดลูก คุณหมอให้ยาปรับฮอร์โมนมาทาน10วัน(medroxyprogesterone) แต่เมื่อทานไปได้3วันประจำเดือนหนูก็หยุดแต่พอทานถึงประมาณวันที่5ประจำเดือนหนูก็มาอีกค่ะแต่แบบกระปริบกระปรอย และเริ่มมีอาการป่วยท้องด้วยค่ะจากที่ไม่เคยปวดพอทานได้ถึงวันที่8 ประจำเดือนหนูเริ่มมาเยอะและมาเป็นก้อนด้วยค่ะ จนหนูทานยาครบ และหลังจากการทานยาหมด ประจำเดือนก็มาเยอะและมีก้อนอีกค่ะ สรุปคือหลังจากหนูทานยาไปประจำเดือนหยุดไปประมาณ1วัน หนูสงสัยว่าประจำเดือนมาเพราะอะไร เพราะทางคุณหมอแจ้งว่าเมื่อทานยาได้3-4วัน ประจำเดือนจะหยุดและจะมาอีกครั้งหลังจากกยาหมดประมาณ3วัน และสงสัยว่าก้อนเลือดที่ออกมาอาจจะเป็นที่ค้างอยู่ในปากมดลูกเหรอค่ะ

    สวัสดีค่ะ คุณ 12tree

    การที่มีประจำเดือนมามาก หรือมีเลือดออกกระปริดกระปรอย สามารถเกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น ภาวะแทรกซ้อนจากการตั้งครรภ์ ภาวะฮอร์โมนเพศหญิงไม่สมดุลมักพบในวัยรุ่นที่เริ่มมีประจำเดือน หรือวัยใกล้หมดประจำเดือน ผลข้างเคียงของยาคุมกำเนิด ความเครียด เนื้องอกในมดลูก มดลูกหรืออุ้งเชิงกรานอักเสบ เป็นต้น

    จากที่คุณ 12tree เล่ามา โดยทั่วไปหากมีผนังมดลูกหนา การใช้ยาฮอร์โมนเพื่อปรับสภาพผนังมดลูก เพื่อให้ประจำเดือนมาใกล้เคียงปกติมากขึ้น โดยในคนไข้บางรายอาจมีการหลุดลอกของประจำเดือนที่มากจนมีเลือดออกมาก หรือเป็นก้อนเลือดได้ค่ะ 

    ดังนั้นจากที่คุณ 12tree เล่ามา อาจเป็นเลือดที่ออกจากการหลุดลอกของผนังมดลูกที่หนามาก จึงมีอาการดังกล่าว แนะนำคุณ 12tree ไปตรวจติดตามการรักษากับแพทย์ผู้ดูแล และแจ้งอาการตามข้างต้นกับแพทย์ผู้ดูแลอีกทีนะคะ